STARK ผู้เสียหายยื่นหนังสือ ก.ล.ต. จี้เร่งสางคดี วอน TIA ช่วยค่าฟ้องร้อง

STARK ผู้เสียหาย

ผู้ลงทุนรายย่อยหุ้น STARK กว่า 1,759 ราย ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือ ก.ล.ต. เรียกร้องให้ดำเนินมาตรการลงโทษทางอาญา-ทางแพ่ง ขั้นสูงสุด พร้อมขอคำแนะนำถึงช่องทางช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ลงทุน วอนสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) ช่วยค่าใช้จ่ายทนายฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่ม

วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ปรึกษาผู้ลงทุนผู้เสียหายของหุ้น STARK (บมจ.สตาร์ต คอร์เปอเรชั่น) พร้อมด้วยนายประสงค์ (ขอสงวนนามสกุล) ตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้น STARK เปิดเผยว่า เนื่องจากการที่สำนักงาน ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษดำเนินคดีบุคคลและนิติบุคคลรวม 10 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่า ได้ร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ลงบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความจริง ในปี 2564-2565 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ ให้เข้าใจผิดในผลประกอบการและแผนงานของบริษัท STARK ซึ่งเข้าข่ายความผิดหลายมาตราตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ 

และต่อมา ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของบุคคลทั้ง 10 ราย เป็นเวลา 180 วัน เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่ก่อความเสียหายต่อประชาชนเป็นวงกว้างและมีพฤติการณ์ที่ควรเชื่อได้ว่าผู้กระทำผิดจะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินไป

ในช่วงบ่ายวันนี้ (11 ก.ค.) กลุ่มผู้เสียหายที่ลงทุนในหุ้น STARK จึงเดินทางมาที่สำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อยื่นหนังสือต่อนางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายสื่อสารองค์กร กับนางสิริพร จังตระกูล เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และผู้แทนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อแสดงความชื่นชมต่อ ก.ล.ต. ในการเร่งดำเนินคดีและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดอย่างเร่งด่วน 

ขณะเดียวกันก็ขอติดตามและเร่งรัดให้ ก.ล.ต.ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปอย่างไม่ชักช้า โดยกลุ่มผู้เสียหายมีความเห็นว่าการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลทั้ง 10 ราย เข้าข่ายความผิดหลายมาตราของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ซึ่งให้อำนาจ ก.ล.ต.ในการใช้มาตรการลงโทษผู้กระทำความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 

Advertisment

กลุ่มผู้เสียหายจึงขอเรียกร้องให้ ก.ล.ต.ดำเนินมาตรการลงโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่งขั้นสูงสุด พร้อมทั้งขอคำแนะนำถึงช่องทางที่ ก.ล.ต.จะสามารถช่วยเหลือบรรเทาเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ลงทุนรายบุคคลเหล่านี้

ในการมาพบผู้บริหารของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนี้ กลุ่มผู้เสียหายยังขอแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้วิกฤตความเชื่อมั่นในตลาดที่เกิดจากการกระทำเพียงบุคคลกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง แต่สามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อตลาดทุน ซึ่งถือเป็นเสาหลักหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ให้เป็นบทเรียนและใช้เป็นโอกาสในการปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เป็นข้อจำกัดในการกำกับ ดูแล ป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในตลาดทุนในปัจจุบัน 

เพื่อยกระดับความเชื่อมั่น โปร่งใส และธรรมภิบาล ของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต  ตัวอย่างเช่น ข้อจำกัดของ ก.ล.ต.ไทยที่ไม่สามารถดำเนินคดีทางแพ่งต่อผู้กระทำความผิด แทนผู้ลงทุนที่เสียหาย เพื่อให้สามารถเรียกเงินชดใช้ความเสียหายให้แก่ผู้ลงทุนที่เสียหายได้โดยตรง 

เช่นเดียวกับตลาดทุนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น (อ้างอิงดุษฎีนิพนธ์การบังคับใช้กฎหมายในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคุณเฉลียว นครจันทร์และคุณนิติ ผดุงชัย หลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น)

Advertisment

นอกจาก 2 หน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดทุน แล้วในวันนี้ กลุ่มผู้เสียหายได้ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้เสียหายได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีจากสมาคมผ่านทางเลขาธิการสมาคมที่ช่วยกรุณาเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผู้เสียหาย มีผู้ลงทะเบียนเป็นจำนวนรวม 1759 ราย 

จึงได้ขอให้สมาคมช่วยสนับสนุนช่วยเหลือการดำเนินการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม (Class Action) โดยยังคงเป็นศูนย์กลางรวมผู้เสียหายต่อไป และช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้อง เช่น ค่าทนายความ และค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินคดีแบบกลุ่มเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น และประสบความสำเร็จ จนสามารถเรียกร้องความยุติธรรมและเยียวยาผู้เสียหายได้ในที่สุด

นางสิริพร จังตระกูล เลขาธิการสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้เสียหายที่ลงทุนในหุ้น STARK ที่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ได้รับความเสียหายกว่า 1,759 ราย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง TIA เพื่อขอให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม (Class Action) อาทิ ค่าวิชาชีพทนายความ ฯลฯ ตลอดจนค่าดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง 

เนื่องจากผู้เสียหายได้สูญเสียเงินลงทุนและหรือเงินออมไปเป็นจำนวนมากแล้ว และเพื่อให้การดำเนินการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่ม ดำเนินไปตามลำดับได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น และประสบความสำเร็จในที่สุด ซึ่งจะเป็นการเยียวยาและสร้างความยุติธรรมให้กับผู้ลงทุนรายบุคคล          

“ผู้เสียหายที่เป็นผู้ลงทุนรายบุคคลเข้าลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้นจำนวน 1,759 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากรณีนี้ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ลงทุนรายบุคคลจำนวนมากและเป็นวงกว้าง”

ทั้งนี้ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยรับพิจารณาในการดำเนินการ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามที่ตัวแทนผู้เสียหายหุ้น STARK ร้องขอมาเป็นลำดับไป