หุ้นไทยอ่อนตัว 1,430-1,425 จุด บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง ทุบสถิติสูงสุดรอบ 16 ปี

หุ้นไทย
ภาพจาก Canva

บล.กรุงศรีประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัว 1,430-1,425 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน มีแรงซื้อดักหุ้นคาดงบฯไตรมาส 3/2566 เติบโตช่วยหนุนดัชนี แต่สงครามอิสราเอลมีแนวโน้มบานปลาย ตัวเลขการก่อสร้างบ้านเดี่ยวสหรัฐ +1.8% ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี กดดันการลงทุน-ฟันด์โฟลว์ในช่วงนี้

วันที่ 19 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) วันนี้พบว่าเปิดตลาดปรับตัวลงไปที่ระดับ 1,419.39 จุด หรือ -18.46 จุด นายอาทิตย์ จันทร์สว่าง นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า วานนี้ดัชนี SET Index บวก 4 จุด (+0.31%) ปิดที่ระดับ 1,438 จุด จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากเหตุความรุนเรงในตะวันออกกลางจะบานปลาย

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,430-1,425 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงซื้อดักหุ้นคาดงบฯไตรมาส 3/2566 เติบโตช่วยหนุนดัชนี

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสมีแนวโน้มบานปลาย ประกอบกับตัวเลขการก่อสร้างบ้านเดียวสหรัฐ +1.8% ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น ซึ่งจะกดดันต่อการลงทุนและฟันด์โฟลว์ในช่วงนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้คือ 1.ดาวโจนส์ร่วงแรงหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี และกังวลเหตุรุนแรงในตะวันออกกลาง โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 332.57 จุด (-0.98%) ปิดที่ระดับ 33,665 จุด

หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี พุ่งแตะระดับ 4.94% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี กังวลเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังกิจกรรมเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ตลาดยังกังวลกับเหตุการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง

2.IMF ลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้และปีหน้าจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยปีนี้เหลือขยายตัว 2.7% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3.4% และลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีหน้าเหลือขยายตัว 3.2% จากเดิมคาดว่าจะโต 3.6% เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกยังผันผวน จีนยังมีความไม่แน่นอน และมีประเด็นข้อขัดแย้งในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยกดดันเพิ่ม

3.จีนประกาศ GDP ไตรมาส 3 ดีเกินคาด หลายกิจกรรมเศรษฐกิจมีสัญญาณบวก โดยจีนประกาศ GDP ไตรมาส 3/256 ขยายตัว 4.9% แม้จะชะลอตัวลงจาก 6.3% ในไตรมาส 2/2566 แต่ดีกว่าที่ Consensus คาดว่าจะขยายตัว 4.4-4.6%

ขณะเดียวกันยอดค้าปลีกเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% สูงกว่าเดือน ส.ค. ที่เพิ่มขึ้น 4.6% YOY นับเป็นการปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.5% YOY สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 4.3% YOY

หุ้นแนะนำวันนี้ BDMS (ปิด 27.50 บาท ซื้อ/เป้า 37 บาท) คาดกำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น ทำสถิติสงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3 โดยมีกำไรประมาณ 3,648 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.1% QOQ และ 78% YOY และมีโอกาสทำ New High ได้อีกในไตรมาส 4 จากผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง

ADVANC (ปิด 225 บาท ซื้อ/เป้า 262 บาท) กำไรสุทธิยังอยู่ในโหมดฟื้นตัว โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ 7,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% QOQ และ 21% YOY การแข่งขันในธุรกิจลดลง และมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) เพิ่มขึ้นทั้งมือถือและอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์