
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้หุ้น STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม จากกรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 ส่งผลให้มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเป็น 3 เหตุแล้ว
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการประกาศให้หุ้นสามัญของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน 2 เหตุ ได้แก่ กรณีงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และกรณี STARK เปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
- EV จีน ทุบราคาเลือดสาด ฉางอาน-กว่างโจวท้ารบ BYD เกทับลดอีกแสน
ต่อมาได้ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า STARK ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (คือ ล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ 15 พฤษภาคม 2566) อันเป็นเหตุให้หุ้นสามัญของ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงประกาศให้หุ้นสามัญของ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมอีก 1 เหตุ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566
ดังนั้น ในปัจจุบัน หุ้นสามัญของ STARK จึงมีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนรวมทั้งสิ้น 3 เหตุ และมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการในแต่ละเหตุ ดังนี้
- กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567
- กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568
- กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569
ทั้งนี้ STARK มีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนดังกล่าวข้างต้นให้หมดไปและดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายภายในกำหนดระยะเวลาของแต่ละเหตุ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว หาก STARK
ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหุ้นสามัญของ STARK ต่อไป