บล.กรุงศรีฯ ประเมินหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวแนวรับ 1,420-1,425 จุด จากความไม่แน่นอนการลดดอกเบี้ยเฟด หลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม แรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจะช่วยหนุนดัชนีรีบาวนด์ขึ้นได้
วันที่ 8 มกราคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯรายงานว่า ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ SET Index ลดลง 7 จุด (-0.46%) ปิดที่ระดับ 1,428 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการสูงขึ้นของ US Bond Yield อาทิ กลุ่มอิเล็กฯ, ไฟแนนซ์ และกลุ่มโรงไฟฟ้า
- เปิดประวัติ 6 รัฐมนตรีใหม่ เศรษฐา 1/1 พิชัย-พิชิต-เผ่าภูมิ-จิราพร-อรรถกร-สุชาติ
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,420-1,425 จุด จากความไม่แน่นอนของทิศทาง ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือน ธ.ค. สูงกว่าคาด ส่งผลให้ ค่าเงิน USD และ US Bond Yield ดีดตัวขึ้น ซึ่งเป็นลบต่อภาวะการลงทุนและแนวโน้มเงินลงทุนจากต่างชาติ (Fund flow) อย่างไรก็ตาม แรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะช่วยหนุนดัชนีสลับรีบาวนด์ขึ้นได้
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้
ข่าว ITD เลื่อนจ่ายหนี้เงินต้นหุ้นกู้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดหุ้นกู้ไทยโดยตรง : ข่าว ITD จะขอผู้ถือหุ้นกู้เลื่อนจ่ายชำระหนี้เงินต้นเป็นเวลา 2 ปี แต่ดอกเบี้ยยังชำระตามเดิม ประเด็นนี้กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นกู้โดยตรง การระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ทำได้ยากและมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น อาจกระทบกลุ่มบริษัทที่ต้องการ Roll Over หุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนด หรือกลุ่มบริษัทในธุรกิจไฟแนนซ์ซึ่งนิยมระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้เป็นหลัก
ภาคอสังหาฯและเศรษฐกิจจีนยังเสี่ยง หลัง จงจื่อ ธนาคารเงารายใหญ่ของจีนยื่นล้มละลาย : จงจื่อ เอ็นเตอร์ไพรส์ กรุ๊ป ได้ประกาศล้มละลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากไม่สามารถจ่ายชำระผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยได้ เนื่องจากมีภาระหนี้สินจำนวนมาก ข่าวนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมเชิงลบไปถึงอุตสาหกรรมทรัสต์ทั้งระบบ และอาจจะส่งผลกระทบไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อาทิ อสังหาฯ และท้ายที่สุดจะฉุดให้ GDP จีนขยายตัวต่ำกว่าที่คาดกันไว้เป็นลบกับกลุ่มธุรกิจที่ link กับจีน อาทิ พลังงาน ส่งออก และท่องเที่ยว
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐดีเกินคาดลดโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง จาก 173,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. และมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 170,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 37% ตามเดิม สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่งทำให้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค.ลดลงเหลือ 53.8% จาก 73.8% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ PTTEP, TOP, SPRC, IVL ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น AOT, AAV, BA, CENTEL, ERW, MINT, SPA ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวไทย/จีนแบบถาวร WHA, AMATA, CBG, TU, ITC, AUCT, PLANB, SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
หุ้นแนะนำวันนี้
BH (ปิด 227 ซื้อ/เป้า 282 บาท) เป็น Defensive Stock เหมาะสำหรับพักเงินในภาวะที่ตลาดผันผวน ขณะที่งบฯ 4Q23 ไม่แย่ กำไรสุทธิยังโตดีทั้ง QOQ และ YOY ตามจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (PM 2.5) และจากการเข้าตรวจสุขภาพประจำปี
TOP (ปิด 53.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 58.90 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ำมันดิบของโลก ขณะที่ค่าการกลั่นล่าสุดปรับขึ้นสู่ระดับ 7.55 $/bbl เทียบกับ ณ สิ้นปีที่ 6.3 $/bbl
