
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน 1,350-1,400 จุด จับตาการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 แนะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร AOT, AAV, MINT, CENTEL, ERW, SPA และ SKY
วันที่ 30 มกราคม 2567 นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้ปัจจัยบวกจากกลุ่มท่องเที่ยวหลังมีมาตรการฟรีวีซ่าถาวรไทย-จีน โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่ยังมีประเด็นการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในวันที่ 31 ม.ค. จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,350-1,400 จุด
ทั้งนี้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% YOY ในเดือน ธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ 2.6% ในเดือน พ.ย. บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวสนับสนุนตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเห็นได้จาก FedWatch Tool ของ CME Group ให้น้ำหนัก 97.4% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งแรกของปีในวันที่ 30-31 ม.ค. และเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เตรียมผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 127 โครงการ มูลค่าประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท โดยทุกจำนวน 1 แสนล้านบาทของการลงทุนคาดว่าจะช่วยผลักดัน GDP ให้ขยายตัวได้ประมาณ 0.3% ในส่วนของปัจจัยลบมาจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียด ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ และภาระหนี้ครัวเรือนสูง
ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ วันนี้ (30 ม.ค.) จะมีการประชุม ครม., วันที่ 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย และกำหนดการวินิจฉัยคดี “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่ และวันที่ 7 ก.พ. กำหนดการประชุม กนง. ครั้งที่ 1/2567 ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันนี้ (30 ม.ค.) สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือน พ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.
วันที่ 31 ม.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือน ม.ค., สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ม.ค. จาก ADP และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ (เช้าวันที่ 1 ก.พ.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, วันที่ 30-31 ม.ค. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED), วันที่ 1 ก.พ. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ม.ค. จากไฉซิน และอียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน ม.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายดังกล่าว ได้แก่ AOT, AAV, MINT, CENTEL, ERW, SPA และ SKY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า สัปดาห์นี้จับตาการประชุม FOMC และประกาศตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ และการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25%-5.50% และหากไม่มีสัญญาณลบจากรายงานการประชุมเฟดเพิ่มเติมจะเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ
โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าทางเทคนิคราคาทองคำกำลังสร้างฐานเหนือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อีกทั้งความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นแรงหนุนต่อสินทรัพย์ปลอดภัย คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนในกรอบ 2,000-2,040 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จึงแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้