
เปิดเงื่อนไข ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และ 4 แบงก์ตัวแทน รุ่นอายุ 5 ปี-10 ปี วงเงิน 40,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยคงที่ 3-3.40% ต่อปี ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท เริ่มขาย 6 มี.ค.นี้ เช็ครายละเอียดที่นี่
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ (Saving Bond) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1 วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท
โดยเปิดขายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และ 4 ธนาคารตัวแทน แบ่งเป็น รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี และ รุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อคน อายุ 15 ปีขึ้นไปก็เริ่มลงทุนได้ สำหรับใครที่สนใจลงทุน สามารถดูรายละเอียดได้ดังนี้
ประชาชนทั่วไป วงเงิน 35,000 ล้านบาท
1.วอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง
รายละเอียดพันธบัตร
– วงเงินจำหน่าย 10,000 ล้านบาท
– รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี
– รุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี
– จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
ผู้มีสิทธิ์ซื้อ
– บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
เงื่อนไขการซื้อ
– วงเงินขั้นต่ำ-ขั้นสูงอยู่ที่ 100-50,000,000 บาท (หน่วยละ 100 บาท)
วันและช่องทางจำหน่าย
– จำหน่ายวันที่ 6-19 มีนาคม 2567(เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป) ผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และเติมเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ผ่าน Mobile Banking หรือผูกบัญชีธนาคารกรุงไทย รวมถึงเติมเงินด้วย Wallet ID ที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
2.พันธบัตรออมทรัพย์ แบบ Small Lot First
รายละเอียดพันธบัตร
-วงเงินจำหน่าย 25,000 ล้านบาท
– รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี
– รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี
– รับดอกเบี้ยงวดแรกวันที่ 14 มิถุนายน 2567 (จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน)
-เริ่มนับดอกเบี้ยภายหลังประกาศผลการจัดสรร (14 มีนาคม 2567) และคืนเงินจองซื้อได้ในวันทำการถัดไป (14 มีนาคม 2567) (กระทรวงการคลังสามารถปรับเปลี่ยนวันประกาศผลการจัดสรรได้ตามความเหมาะสม)
ผู้มีสิทธิ์ซื้อ
– บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
เงื่อนไขการซื้อ
– จัดสรรแบบ Small Lot First ขั้นต่ำ 1,000 บาททวีคูณรอบละ 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินขั้นสูงต่อราย
– กรณีจองซื้อหลายรายการหรือผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย จะนำวงเงินที่ได้รับจัดสรร กระจายให้ทุกรายการตามสัดส่วนการจอง (Pro-rata) รวมกันไม่เกินวงเงินจัดสรรสูงสุด
วันและช่องทางจำหน่าย
– จำหน่าย 11-13 มีนาคม 2567
– จองซื้อผ่านเคาน์เตอร์ และ Internet Banking Mobile Banking ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกร
– ผู้จองซื้อจะต้องชำระเงินทันทีภายหลังส่งคำสั่งจองซื้อ
– สบน. และ ธปท. จะแจ้งข้อมูลผลการจัดสรรในภาพรวม ผ่านทางเว็บไซต์ สบน. และ ธปท. และธนาคารตัวแทนจะแจ้งผลการจัดสรรผ่าน SMS และช่องทางอื่นของธนาคารตัวแทน
– ตรวจสอบวงเงินที่ได้รับจัดสรรผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตังที่แท็บพันธบัตรออมทรัพย์ที่ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย
นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท
พันธบัตรออมทรัพย์แบบ First-Come First-Served
รายละเอียดพันธบัตร
– วงเงินจำหน่ายทั้งหมด 5,000 ล้านบาท
– รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี
– รับดอกเบี้ยงวดแรกวันที่ 18 กันยายน 2567(จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน)
ผู้มีสิทธิ์ซื้อ
– นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ได้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
เงื่อนไขการซื้อ
– ขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง (หน่วยละ 1,000 บาท)
– จัดสรรแบบ First-Come First-Served (มาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน)
– กรณีวงเงินจำหน่ายคงเหลือน้อยกว่าวงเงินที่ซื้อลำดับถัดไป ผู้ซื้อรายนั้นจะไม่ได้รับการจัดสรรและธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะคืนเงินให้ผู้ซื้อทั้งจำนวนในวันที่ซื้อ โดยไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย
วันและช่องทางจำหน่าย
– จำหน่าย 18-19 มีนาคม 2567 โดยไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูงต่อราย
– จำหน่ายผ่านสาขาธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกร
โดยการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ให้กับประชาชนในช่วงที่ 1 (วันที่ 11 – 13 มี.ค. 2567) จะใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ Small Lot First (ทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบ ๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย) โดยทวีคูณรอบละ 1,000 บาท ซึ่งลำดับในการจองซื้อก่อน-หลัง ไม่มีผลต่อการจัดสรร
และในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย โดยผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรและได้รับเงินคืน กรณีที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินจองซื้อ ในวันที่ 14 มี.ค. 2567
อย่างไรก็ดี สบน. ประเมินว่าการเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1 วงเงิน 40,000 ล้านบาท จากแผนการออกในปีนี้ที่ 100,000 ล้านบาทนั้น จะได้รับความสนใจจากประชาชนและกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา ซึ่งถือว่าเป็นแรงดึงดูดใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี