สคร.เผยรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบฯลงทุนกว่า 3.8 หมื่นล้าน

สคร.

สคร.เผยรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบฯ ลงทุนจนถึงเดือน ม.ค. 2567 จำนวน 38,551 ล้านบาท หรือคิดเป็น 123% ของแผนการเบิกจ่าย ชี้ ร.ฟ.ท. เบิกจ่ายมากสุด

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า รัฐวิสาหกิจที่ สคร.กำกับดูแลโดยตรงและมีการเบิกจ่ายงบฯ ลงทุนมีจำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน)

โดยในปี 2567 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบฯลงทุนจนถึงเดือนมกราคม 2567 จำนวน 38,551 ล้านบาท หรือคิดเป็น 123% ของแผนการเบิกจ่าย ประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบฯลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566-เดือนมกราคม 2567) 34 แห่ง จำนวน 32,293 ล้านบาท หรือคิดเป็น 116% ของแผนการเบิกจ่าย

และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (เดือนมกราคม 2567) 9 แห่ง จำนวน 6,258 ล้านบาท หรือคิดเป็น 182% ของแผนการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่าย และมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่

    1. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
    2. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
    3. การประปานครหลวง

รัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่

    1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
    2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
    3. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะของ รฟม. โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ของ ร.ฟ.ท. และโครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

ผู้อำนวยการ สคร.กล่าวสรุปว่า การเบิกจ่ายงบฯลงทุน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 เป็นผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 4 เดือน ซึ่งคิดเป็น 26% ของกรอบงบฯลงทุนทั้งปี และผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 1 เดือน คิดเป็น 5% ของกรอบงบฯลงทุนทั้งปี

ทั้งนี้ สคร.จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบฯลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบฯลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป