หุ้น-การเงิน

SCBX ดึง AI เคลื่อนยานแม่ ตั้งเป้า 3 ปี ครอบคลุมรายได้ 75%

อาทิตย์ นันทวิทยา
อาทิตย์ นันทวิทยา

“อาทิตย์” ซีอีโอ SCBX เผยโลกเจอการเปลี่ยนแปลงกระทบธุรกิจปรับตัว ต้องวิ่งเร็ว-วิ่งอึด หยุดวิ่งถอยหลังทันที ชี้ AI จะเข้ามาเปลี่ยนโลก ลุยดึง AI มาใช้ในธุรกิจหน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน ตั้งเป้า 3 ปี คาดรายได้ 75% มาจาก AI

วันที่ 20 มีนาคม 2567 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน “Prachachat Business Forum 2024” ในหัวข้อ “ฝ่าพายุความเปลี่ยนแปลง” ว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climate Change) และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี (Disruptive Technology) ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงมาสู่ผลลัพธ์ของคำว่า “VUCA” ซึ่งมาสู่ความไม่แน่นอนและความผันผวนของธุรกิจมากขึ้น

ทั้งนี้ SCBX ยังอยู่ใน Journey ของการเปลี่ยนแปลงและไม่สามารถมั่นใจสิ่งที่ทำว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เพราะขึ้นอยู่กับการปรับตัว เปรียบเหมือนนักวิ่ง หากหยุดเดิน หยุดวิ่ง เราก็จะถอยหลัง เพราะโลกแห่งเทคโนโลยีเราจะต้องเป็นนักวิ่งเร็ว และวิ่งอึด เหมือนคนที่เป็นผู้นำจะต้องอึดและเร็วมาก แม้ว่าการตัดสินใจจะยังไม่ชัดเจน แต่ยังจำเป็นต้องเดินต่อไปข้างหน้า

ดังนั้น มองไปข้างหน้าภายใต้การเปลี่ยนแปลงและความผันผวน โดย SCBX จะให้ความสำคัญในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพราะในอนาคตจะมาเปลี่ยนโลก บริษัทจึงมีโครงการให้พนักงาน 20,000 คนเข้ามาเรียนหลักสูตร และสามารถสอบเลื่อนระดับชั้น จะสามารถพัฒนาไปทำงานในเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งก็เป็นโอกาสของพนักงาน

อย่างไรก็ดี ธุรกิจดั้งเดิม (Cash Cow) ที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ดีอยู่แล้วนั้น มองว่ายังคงต้องรักษาองค์กรธุรกิจดั้งเดิมไว้ให้ดี และหันโฟกัสด้านการลงทุน และการบริหารต้นทุน (Cost) ให้มีประสิทธิภาพก็จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ SCBX แบ่งธุรกิจเป็น 3 Gen ใหญ่ ๆ ถ้าเทียบกับ SCBX คือกลุ่ม Gen 1 กลุ่มดั้งเดิม อย่างธนาคารไทยพาณิชย์จะ Keep ธุรกิจเดิมไว้ Gen 2 ธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี อย่าง Card x และ Gen 3 สตาร์ตอัพ ซึ่งกลุ่มนี้ต้องอึด ต้องเร็ว แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จหรือไม่ เป็นหนทางที่ถูกหรือไม่ ถ้าผิดก็ต้องนำมาปรับแก้ให้ได้ประโยชน์กับสิ่งที่จะเกิดต่อไป

ยกตัวอย่าง กรณีธนาคารไทยพาณิชย์ที่ยังคงธุรกิจดั้งเดิม แล้วหันมาพัฒนาด้านการลงทุนและบริหารต้นทุนแทน ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไม่ได้มีมรดกหรือธุรกิจเดิมมาก็จะต้องเริ่มต้นด้วยความคิด (Mindset) ที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการลองผิดลองถูกในธุรกิจที่ทำอยู่ได้ เพราะถ้ายิ่งต้นทุนต่ำมากเท่าไหร่เราก็สามารถลองผิดได้มากขึ้นเช่นกัน และสิ่งที่สำคัญคือ การนำเอาการลองผิดนั้นมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป

“เราพูดถึงเรื่องของ Big Data กันเยอะ แต่ยังไม่มีใครเซตเป้าหมาย ซึ่งเรา SCBX ได้มีการเซตเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้าจะมีรายได้มาจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับ AI ประมาณ 75% โดยเราจะนำ AI มาเซตในงานทั้งหมด ทั้งหน้าบ้าน กลางบ้าน และหลังบ้าน เพราะเราเชื่อในเรื่องของการดำเนินงาน หรือ Execution มากกว่า”

สำหรับข้อแนะนำในการปรับตัวฝ่าพายุความเปลี่ยนแปลงนั้น มองว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ (Location) ที่ดี และมีความพร้อมในหลายด้าน แต่เหมือนเรายังกลัดกระดุมเม็ดแรกไม่ค่อยถูก ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม เพราะจะถูกแบ่งความคิดเป็น 2 ฝ่ายที่ไม่ตรงกัน ซึ่งไม่ว่าใครจะขึ้นมาก็ตาม จะมีข้อถกเถียงกันเกิดขึ้น สุดท้ายจึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยลดความขัดแย้งทางความคิด ปลดล็อกความไม่เชื่อใจ ให้เกิดความมั่นใจ ความเชื่อมั่น ซึ่งไม่ใช่เพื่อใคร แต่เป็นคนรุ่นหลังและประเทศไทย