
กระทรวงการคลังเตรียมแถลง “มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ” วันนี้หลังประชุม ครม. พร้อมประกาศ “Thailand Vision” ยกระดับประเทศสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก จับตาขยับราคาบ้านเป็น 7 ล้าน ได้ลดค่าโอน-จดจำนอง จากเดิมให้แค่ 3 ล้าน
วันที่ 9 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังแจ้งว่า ในวันนี้ (9 เม.ย.) เวลา 14.30 น. ผู้บริหารกระทรวงการคลัง จะแถลงข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
โดยจะมีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พร้อมด้วยนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง และนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นผู้แถลง
นอกจากนี้ ยังร่วมด้วยนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และนายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
สำหรับสาระสำคัญที่ต้องจับตาของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาฯ คือ กระทรวงการคลังได้ปรับปรุงมาตรการเดิมเกี่ยวกับการลดค่าจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม รวมทั้งการโอนและค่าจดจำนองให้กับอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะเพิ่มเป็นราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ให้สอดคล้องสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ที่เหลือขายสะสมอยู่ในตลาดที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่ง ครม.เห็นชอบเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ให้ขยายเวลามาตรการ 1 ปี ไปสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567
ภายใต้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ครั้งนี้ จะมีการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ จากปกติ 2% เหลือ 0.01% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในคราวเดียวกัน จากปกติ 1% เหลือ 0.01%
พร้อมกันนี้ยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ บุคคลธรรมดาที่มีการสร้างบ้าน แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าก่อสร้างบ้าน เมื่อได้ทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านกับผู้รับเหมาทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และต้องเริ่มก่อสร้างบ้านในหรือหลังวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธ.ค. 68
โดยมูลค่าการหักลดหย่อนให้เป็นไปตามมูลค่าการก่อสร้างบ้าน 1 ล้านบาท จะหักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท ตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านที่เสียอากรแสตมป์ด้วยวิธีการชำระอากรเป็นเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตกับกรมสรรพากร คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยภาครัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี