“กิติพงศ์” ประธาน ตลท.คนใหม่ กางภารกิจสำคัญ “จัดการแก๊งปั่นหุ้น”

kitipong

ช่วงนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีการเปลี่ยนแปลงทั้งระดับบริหาร และระดับคณะกรรมการ (บอร์ด) โดยในระดับบริหารนั้น อยู่ระหว่างกระบวนการสรรหา “ผู้จัดการ ตลท.” คนใหม่ ซึ่งล่าสุดเพิ่งปิดรับสมัครไป มีผู้สนใจยื่นใบสมัครเข้ามาทั้งคนในและคนนอก รวมแล้วราว ๆ 7-8 ราย คาดว่าสิ้นเดือน พ.ค.นี้จะมีการประกาศผู้ที่ได้รับคัดเลือก

ว่ากันว่า ตัวเต็ง เป็นคนใน ได้แก่ “แมนพงศ์ เสนาณรงค์” รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ที่ยื่นใบสมัครในวันสุดท้าย

ขณะที่ตำแหน่งประธานบอร์ดที่ว่างลง เนื่องจากนายพิชัย ชุณหวชิร ลาออกไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังนั้น ล่าสุด บอร์ดได้ประชุมกัน เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้มีมติเลือก “ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์” อดีตประธาน บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ มือกฎหมายธุรกิจ วัย 69 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่ง “ประธานกรรมการ ตลท.” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า “ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์” เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มาจากการแต่งตั้งจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการ ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2565

ซึ่งคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาแล้ว และเห็นว่า “ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์” เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ด้านตลาดทุนมาอย่างยาวนาน จึงเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ

ส่งผลให้ปัจจุบัน คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ (ประธานกรรมการ), นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย (รองประธานกรรมการ), ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์, นายคมกฤช เกียรติดุริยกุล, ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่, นายธิติ ตันติกุลานันท์,

ADVERTISMENT

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์, นายศุภโชค ศุภบัณฑิต, นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย และ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย (กรรมการและผู้จัดการ) รวมทั้งสิ้น 10 ราย

ส่วนตำแหน่งกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 1 ตำแหน่งที่ว่างลง ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแต่งตั้งโดยคณะกรรมการ ก.ล.ต.

ADVERTISMENT

“ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์” กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภารกิจสำคัญในการดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น ซึ่งเหลือเวลาอีกปีเศษ ๆ (ครบวาระ ส.ค. 2568) คือ การเรียกความเชื่อมั่นตลาดหุ้นให้กลับมา โดยเฉพาะเรื่องการจัดการกับกลุ่มทุจริตปั่นหุ้น อย่างเอาจริงเอาจังให้เป็นกรณีตัวอย่าง อย่างไรก็ดี หลังจากนี้คงต้องเข้าไปหารือ เพื่อรับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก่อน

“การทำงานก็คงไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากผมเข้ามาทำหน้าที่กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้เป็นรอบที่ 4 แล้ว จึงเข้าใจระบบตลาดทุนและคุ้นเคยกับบุคคลต่าง ๆ ในตลาดทุนเป็นอย่างดี”

สำหรับการคัดเลือกผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯคนใหม่นั้น ได้รับรายงานว่า มีผู้สมัครประมาณ 7-8 ราย ซึ่งจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ และสัมภาษณ์ภายในเดือน พ.ค.นี้ และสิ้นเดือน พ.ค. น่าจะประกาศชื่อผู้ได้รับคัดเลือกได้

ก่อนหน้านี้ “ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์” ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันพบว่าความผิดด้านตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลวงใน (อินไซเดอร์) มีเพิ่มมากขึ้น ความผิดเริ่มซับซ้อนขึ้น และทำกันเป็นขบวนการ ไม่ใช่ทำกันแค่ 2-3 คน คือมีการร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งตัวนักลงทุนเอง ที่ปรึกษาการลงทุน และสารพัดตัวละคร ทำให้การจับหรือดำเนินการตรวจสอบยากขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้น การจัดการกับอาชญากรรมตลาดทุน ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน สิ่งสำคัญคือต้องสร้างองค์ความรู้ ทั้งกระบวนการต้นน้ำ-กลางน้ำและปลายน้ำ

“อาชญากรรมในตลาดทุนใหญ่ขึ้น เพราะผลประโยชน์เยอะ คุ้มกับการเสี่ยงในการทำความผิด และปัญหาของเรา คือเวลาฉ้อโกงหรือปั่นหุ้น คนที่เดือดร้อนคือ แมลงเม่า นักลงทุนรายย่อย ซึ่งไม่ค่อยช่ำชองในการกลั่นกรองข้อมูลที่เพียงพอ คือเชื่ออะไรง่ายเกินไป ดังนั้นนอกจากเรื่องการจัดการกับอาชญากรรมตลาดทุน อีกด้านก็ต้องทำเรื่องการสร้างองค์ความรู้ในตลาดเงินตลาดทุน”