
บจ.ไทยแห่แจ้งปิดกิจการในประเทศ “เมียนมา” ล่าสุด TPBI บอร์ดไฟเขียวเลิกกิจการ-ชำระบัญชีบริษัทย่อย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ชี้ภาวะเศรษฐกิจ-กฎเกณฑ์ทำธุรกิจไม่แน่อน ขณะที่ย้อนตั้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงต้นปี พบมีทยอยปิดกิจการกันต่อเนื่อง “GEL” ระบุการเมืองไม่เอื้อทำธุรกิจ
วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่ผ่านมา หลายธุรกิจที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (บจ.) ในไทย มีการแจ้งปิดกิจการ เลิกธุรกิจในประเทศเมียนมากันอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI เพิ่งแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติให้เลิกและชำระบัญชี บริษัท TPBI & Myanmar Star Company Limited (TPBIMS) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศเมียนมา เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ พลาสติกทั่วไป
โดยมีทุนจดทะเบียน 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเหตุผลของการเลิกกิจการมาจากความไม่แน่นอนในสภาวะเศรษฐกิจและกฎเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมา
ย้อนไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT ก็ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้จดทะเบียนเลิกกิจการบริษัทคริสเตียนีและนีลเส็น (เมียนมา) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CNT เมื่อวันที่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567
ขณะที่ บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL ก็ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีมติอนุมัติการยกเลิกเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า Wisdom Tree Investment (S) PTE. Limited และ Millcon Thiha GEL Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกิจการร่วมค้า ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณ ในประเทศเมียนมา
โดยบริษัทมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 45 เนื่องจากบริษัทย่อยของกิจการร่วมค้ามีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมาไม่เอื้อในการประกอบธุรกิจ
นอกจากนี้ เมื่อปลายปี 2566 บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 มีมติอนุมัติการเลิกกิจการของ GPI Myanmar Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ดำเนินกิจการเกี่ยวกับธุรกิจการจัดการแสดงสินค้าที่ประเทศเมียนมา มีทุนจดทะเบียน 50,000 เหรียญสหรัฐ
โดยบริษัทถือหุ้นเป็นจำนวนร้อยละ 100 เนื่องจากปัจจุบัน GPI Myanmar Company Limited ไม่ได้ประกอบกิจการทางการค้าแล้ว