
ธปท.ชี้ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับภูมิภาค เผยเงินบาทแข็งค่า เหตุตลาดปรับมุมมองเฟดลดดอกเบี้ยเยอะขึ้น-ปัจจัยทองคำภายในประเทศ-การเมือง ย้ำค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวแบบมีเหตุมีผล ไม่กระทบต่อดีมานด์ภาคส่งออก-นำเข้า
วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มองว่าการเคลื่อนไหวยังคงสอดคล้องกับภูมิภาคและตลาดโลก ซึ่งจะเห็นว่ารอบการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก่อนหน้านี้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า และมีการปรับแข็งค่าขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน (YTD) ค่าเงินบาทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เงินบาทที่แข็งค่านั้น เป็นผลมาจากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า โดยมาจากตลาดมีมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในอัตราเยอะขึ้น ทำให้ตลาดมีการปรับมุมมองจึงมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ และสกุลในเอเชีย รวมถึงไทยมีปัจจัยเฉพาะในเรื่องของทองคำ โดยในช่วงราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้ไทยมีการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยการเมืองที่เกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้ หากดูผลกระทบจากเงินบาท ยอมรับว่าผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าที่ไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) อาจจะมีผลต่อรายได้รายรับที่เปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ได้มีผลต่อปริมาณหรือความต้องการของการส่งออกและนำเข้า เนื่องจากผู้ประกอบการจะมีการตั้งราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์ ส่วนผลต่อการจ้างงานที่ค่อนข้างจำกัด
“ปัจจุบันการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้าน และการเคลื่อนไหวยังเป็นไปในลักษณะแบบมีเหตุและมีผล”