7 เดือนแบงก์ปิดเพิ่ม 126 สาขา “กรุงไทย-กสิกรฯ-ธนชาต” นำโด่ง

ธปท. เผย 7 เดือน แบงก์พาณิชย์ปิดสาขาเพิ่มอีก 126 สาขา 3 ค่ายใหญ่ปิดสาขามากสุด “กรุงไทย-กสิกรไทย-ธนชาต” ด้านแบงก์ดิ้นปรับตัวรับเทรนด์ทำธุรกรรมออนไลน์พุ่ง แห่เปิดสาขาอัตโนมัติ ทดแทนสาขาแบบเดิม

รายงานข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับตัวเลขสาขาของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (สิ้น ก.ค. 2560) ได้มีการปิดสาขาแล้วทั้งสิ้น 126 สาขา ทำให้จำนวนสาขาลดลงมาอยู่ที่ 6,890 สาขาจากสิ้นปี 2559 ที่มี 7,016 สาขา

โดยธนาคารที่มีจำนวนสาขาลดลงมากที่สุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา 3 อันดับแรก คือ ธนาคารกรุงไทย สาขาลดลง 60 สาขา มาอยู่ที่ 1,153 สาขา จาก 1,213 สาขา ณ สิ้น ธ.ค.ปีก่อน รองลงมาคือธนาคารกสิกรไทย สาขาลดลง 50 สาขา มาอยู่ที่ 1,059 สาขา จาก 1,110 สาขา และสุดท้ายคือ ธนาคารธนชาต สาขาลดลง 50 สาขา มาอยู่ที่ 543 สาขา จาก 593 สาขา

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้คงเห็นธนาคารมีการปิดสาขาเพิ่มขึ้นบ้าง ในส่วนที่เป็นสาขารูปแบบเดิมในบางทำเลที่ไม่ตอบโจทย์และมีการทำธุรกรรมการเงินน้อย ขณะเดียวกันจะพิจารณาการพัฒนาไปสู่สาขารูปแบบใหม่ ๆแทน ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 1,170 สาขา

โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบสาขาใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมผู้ใช้บริการทางการเงินที่เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก โดยหันไปสู่การทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ทำให้ปัจจุบัน การทำธุรกรรมทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 121% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนการทำธุรกรรมผ่านเครื่องอัตโนมัติเพิ่มขึ้น 8% แต่การทำธุรกรรมที่สาขาลดลง 8% ดังนั้น ธนาคารจึงได้ทำการเปิดสาขาอัตโนมัติรูปแบบใหม่ หรือ SCB Express เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ซึ่งสาขาใหม่นี้สามารถทำหน้าที่ใกล้เคียงกับสาขาเดิม และทำธุรกรรมการเงินได้ครอบคลุมถึง 85% เมื่อเทียบกับสาขารูปแบบเดิม

สำหรับปัจจุบันสาขาใหม่ดังกล่าวเปิดแล้ว 4 แห่งที่เมกาบางนา ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา และเดอะมอลล์ ท่าพระ ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่นี้ให้ได้ 15 สาขา และจะขยายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2561 อีก 200-300 สาขา เพื่อทดแทนหรือแทนที่สาขารูปแบบเดิม

นายเชิดชัย ชมภูนุกูลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริการสายงานเครือข่ายธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารได้มีการลดสาขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้น่าจะเห็นการปิดสาขารวม ๆ แล้วใกล้ 100 สาขา จาก ณ สิ้นปีก่อนที่มีสาขาอยู่ที่ 1,200 สาขา ซึ่งเหตุผลสำคัญมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไปสู่ธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธนาคารต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่มากขึ้น

ล่าสุดธนาคารอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันเพื่อปรับรูปแบบสาขาธนาคารใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มมากขึ้น เช่น ภาคธุรกิจ รายย่อย หรือในทำเลที่มีการทำธุรกรรมสูง รวมไปถึงการนำตู้อัตโนมัติเข้ามาแทนที่การทำธุรกรรมการเงินแบบเดิม ๆ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นภายในไตรมาสที่ 3 หรือต้นไตรมาสที่ 4 นี้

นายสนอง คุ้มนุช รองกรรมการผู้จัดการ สายเครือข่ายลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ในปีนี้ ธนาคารยังไม่มีนโยบายปิดสาขาเพิ่ม โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาอยู่ 543 สาขา เนื่องจากธนาคารอยู่ระหว่างการประเมินการทำธุรกรรมทางสาขาว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร ประกอบกับธนาคารอยู่ระหว่างการประเมินการนำเอาตู้อัตโนมัติ อาทิ Thanachart Express และ Thanachart Next เข้ามาติดตั้งเพิ่มในจุดต่าง ๆ แทนที่สาขาเดิม ๆ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นรูปแบบสาขาชัดเจนขึ้นในสิ้นปีนี้