ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
เมื่อวาน SET แกว่งในกรอบตามคาด : หุ้นโรงพยาบาลใหญ่ BH BDMS และโรงไฟฟ้า GPSC BGRIM
BCPG บวกดีกว่าดัชนีฯ สำหรับหุ้น Underperform ได้แก่ TRUE DTAC DOHOME DELTA ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลง และตลาดไม่ได้มีประเด็นอะไรใหม่ช่วยจุดกระแส บวก/ลบ
วันนี้ : คาดแกว่งในกรอบ 1665-1675 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบจะรีบาวด์ และหนุนราคาหุ้นที่เชื่อมโยงน้ำมันระยะสั้น แต่ “พื้นฐาน” เราคาดจะยังคงเห็น Flows ของการปรับลดประมาณการกำไร และการรีบาวด์ของหุ้น
กลุ่มนี้ เป็นโอกาสในการปรับพอร์ต
What to watch
(*) คาดเบรนท์เตรียมทดสอบ $65 การรีบาวด์ของราคาหุ้นเชื่อมโยงน้ำมันดิบ เป็นโอกาสในการ
ปรับพอร์ต : ราคาน้ำมันดิบเด้งรับ รมต.พลังงาน ซาอุฯคนใหม่ ให้คำมั่นเดินหน้าลดกำลังการผลิต เพื่อประคองราคาน้ำมัน อนึ่งการประชุมโอเปก+รัสเซีย รอบที่ผ่านมา เห็นชอบขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล ต่อวัน ออกไปถึง มีค.ปีหน้า (2020) แต่ MS เชื่อว่าไม่มีผลต่อพื้นฐานราคาน้ามันดิบ เนื่องจากภาวะเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจะกดดันอุปสงค์ ขณะที่ อุปทานยังคงมีส่วนเกินอยู่
(+) จีนลด RRR : ธนาคารกลาง จีน (PBOC) ลด RRR ลงอีก 50bps มีผล 16 ก.ย.นี้ และ MS คาด 4Q19
ลดอีก 50bps / PBOC ประเมินว่าการลดการตั้งสำรองลง 100 bps จะส่งผลให้สถาบันการเงินจีนมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นราว RMB1.5 ล้านล้าน โดยการลดเดือน ก.ย.ก่อนเพื่อ บรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีสินค้าจีน อีก 5% ที่จะมีผล 1 ต.ค.นี้ (จาก 25% เป็น 30% สำหรับสินค้าล็อตแรก US$2.5 แสนล้าน)
(+) จีน สหรัฐฯ จะจัดหารือด้านเศรษฐกิจ และการค้า ในระดับสูง ครั้งที่ 13 ในต้นเดือน ต.ค.นี้ที่ กรุง
วอชิงตัน
(+) Econ focus : ECB คาดปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 0.1% เป็น -0.5% / ธนาคารกลางมาเลเซีย
คาดลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.75% / ตัวเลขเงินเฟ้อ สหรัฐฯ จีน ยุโรป ส่วนใหญ่ชะลอตัวลง
สนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย
หุ้นแนะนำวันนี้
SAMART แนวรับ 8.6 ต้านสั้น 9.2 Stop loss 8.5
Weekly port
เพิ่ม SAMART ได้เวลาเก็บเข้าพอร์ตรอบใหม่ รอรับงาน “ดิจิตอล” ที่จะเซ็นสัญญาในเดือน ต.ค.นี้ ดัน
ยอดงานทยอยรับรู้ (Backlog) แตะ 2 หมื่นลบ.ปีนี้