“สมคิด” เล็งชงแพ็กเกจดูแลเอสเอ็มอี เข้าครม. 7 ม.ค.63

แฟ้มภาพ
สมคิด เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนดูแลเอสเอ็มอี ทั้ง “ผ่อนปรนขอสินเชื่อ-ปรับโครงสร้างหนี้” พร้อมตั้งคณะทำงานติดตามดูแล คาดชงเข้าครม. 7 ม.ค.63 หวังมอบเป็นของขวัญปีใหม่

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)สถาบันการเงิน ทั้งแบงก์รัฐและธนาคารพาณิชย์ สมาคมธนาคารไทย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแนวทางดูแลเอสเอ็มอีร่วมกัน โดยได้มอบนโยบายให้ทุกฝ่ายไปพิจารณาหารือร่วมกัน เพื่อเสนอเป็นแพ็กเกจดูแลเอสเอ็มอีให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ทันในวันที่ 7 ม.ค.63 เนื่องจากต้องการมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กลุ่มเอสเอ็มอีที่แบกรับปัญหา และกลุ่มเอสเอ็มอีที่ยังดีอยู่แต่ต้องดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

สำหรับแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น ได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงิน ไปพิจารณาการผ่อนปรนการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ประชาชนนั้น จะดูเรื่องโครงสร้างหนี้บัตรเครดิตว่ามีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง รวมถึงให้บสย. ซึ่งทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการค้ำประกันสินเชื่อ ระดมแนวคิดว่าจะสามารถช่วยเหลือส่วนใดได้บ้าง นอกจากนี้ ยังได้ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) พัฒนาเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี รวมทั้งได้ให้ธปท. ไปพิจารณาการผ่อนปรนสินเชื่อ ผ่อนคลายดอกเบี้ยบัตรเครดิต และอสังหาริมทรัพย์ว่าจะสมารถดูแลส่วนใดได้บ้าง

พร้อมกันนี้ ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามและดูแลเรื่องดังกล่าว ให้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมีธปท. สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กกร. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นเลขานุการ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้เป็นประธานในคณะทำงานครั้งนี้ เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มาตรการที่จะเสนอเข้าครม. เห็นชอบในต้นปีหน้าเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เบื้องต้น จะพิจารณาร่วมกันกับคณะทำงานในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า จะสามารถช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาจากการเป็นหนี้ในธนาคารพาณิชย์ ที่มีบสย. ช่วยค้ำประกันอยู่ ว่าจะเข้ามาดูแลอย่างไรได้บ้าง ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการที่ถูกกระทบจากการประกอบธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลก็จะหาแนวทางมาดูแลเช่นกัน ทั้งนี้ จะเข้าไปดูแลผู้บริโภค ในส่วนที่เป็นหนี้ส่วนบุคคล

นอกจากนี้ จะให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หารือกับ สสว. กระทรวงอุตสาหกรรม ถึงเรื่องกองส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งมีเงินทุนอยู่ 1 หมื่นล้านบาท ว่าจะสามารถพิจารณานำเงินบางส่วนมาช่วยดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ประสบความยากลำบากในช่วงนี้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี เบื้องต้น เชื่อว่าธพว. ได้เตรียมสินเชื่ออื่นๆ อยู่แล้ว แต่ก็ต้องมาพิจารณา ทบทวน และปรับให้เป็นแพ็กเกจที่จะเสนอครม.ในต้นปีหน้า

ทั้งนี้ กรมสรรพากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ก็กำลังพิจารณาประเด็นเรื่องภาษี ในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะต้องมาหารือร่วมกันว่าจะสามารถทำอย่างไรให้เป็นประโยชน์ในช่วงนี้ได้บ้าง รวมถึงในเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้าง รองนายกได้ให้แนวทางไว้ว่า จะต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย ว่าจะสามารถดูแลเอสเอ็มอีได้อย่างไร