แนวโน้มสำคัญต่อการดำเนิน ธุรกิจเอสเอ็มอีในปี 2563

คอลัมน์ Smart SMEs

โดย วีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ ธนาคารกรุงเทพ

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงปลายปีแบบนี้ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคงกำลังวางแผนธุรกิจเพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจในปีถัดไป ที่ดูท่าว่ามีความท้าทายหลายอย่างรออยู่ ทั้งจากปัจจัยภายนอกและในประเทศ ดังนั้น ในครั้งนี้ผมจึงขอนำเสนอแนวโน้มสำคัญที่คาดว่าจะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีในปีหน้า ซึ่งประกอบด้วยสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ สังคมผู้สูงวัย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล (digital disruption) และการรณรงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ทำให้ภาคการส่งออกของไทยหดตัวลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่เป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของภาคการผลิตของจีน หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อไปถึงปีหน้า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องวางแผนและปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจภายใต้ความกดดันที่เพิ่มขึ้น

สำหรับแนวทางในการปรับตัวกระทรวงพาณิชย์ก่อนหน้านี้ได้แนะนำว่า ผู้ส่งออกไทยควรเร่งขยายการส่งออกสินค้าที่สามารถทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐ (เช่น สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม) และทดแทนสินค้าสหรัฐในจีน (เช่น ผลิตภัณฑ์นมและครีม) อีกทั้งยังควรขยายตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการนำเข้าสินค้าไทย เช่น อินเดีย หรือกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน

ที่น่าสนใจคือ การแถลงตัวเลขการส่งออกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีพื้นฐานการส่งออกที่ดี มีการกระจายตลาด สินค้ามีความยืดหยุ่น และสามารถกระจายการส่งออกในสินค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี

สังคมผู้สูงวัย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเมินว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี 2564 เมื่อโครงสร้างประชากรมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว 13 ล้านคน ส่งผลกระทบทั้งในเชิงสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐต้องจัดสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงจากแรงงานที่ลดลง

ยิ่งไปกว่านั้นสังคมผู้สูงวัยยังทำให้อุปสงค์ต่อสินค้าและบริการเปลี่ยนแปลงไป อาทิ การจับจ่ายใช้สอยเกี่ยวกับสุขภาพ และการรักษาพยาบาลจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้มนี้ส่งผลต่อโครงสร้างของประเทศ ทุกภาคส่วนย่อมได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือภาวะขาดแคลนแรงงาน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องวางแผนปรับธุรกิจหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบรับกับผู้สูงวัย ซึ่งนับเป็นโจทย์ใหญ่อีกโจทย์หนึ่งเลยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล (digital disruption) เป็นแนวโน้มสำคัญที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ดังจะเห็นได้จากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซ หรือความนิยมการชำระเงินด้วย QR code และการใช้ e-Wallet

สำหรับในปีหน้า เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายยุคที่ 5 หรือ 5G จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพลิกโฉมของภาคธุรกิจด้วยขีดความสามารถและประสิทธิภาพที่สูงกว่าเทคโนโลยี 4G ในปัจจุบัน 5G จะนำไปสู่ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลายเข้ากับโครงข่ายอินเทอร์เน็ต IOT (internet of things) ซึ่งจะเอื้อต่อการใช้ประโยชน์จาก big data และ AI รวมไปถึงการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์ที่สามารถทดแทนแรงงานที่ลดลง แต่อาจส่งผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจถึงประโยชน์และผลกระทบของ 5G ต่อภาคธุรกิจและการนำมาประยุกต์ใช้เพราะไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้ประกาศว่าจะจัดการประมูลคลื่นความถี่ 5G ต้นปีหน้า และน่าจะเปิดใช้บริการในบางพื้นที่ราวเดือนสิงหาคม 2563

การรณรงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม จุดเปลี่ยนสำคัญในปีหน้า คือ การที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศว่า ในวันที่ 1 มกราคม 2563 กระทรวงได้ร่วมกับเครือบริษัทใหญ่และร้านสะดวกซื้อเพื่องดแจกถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้กับลูกค้า และรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าหรือวัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยปราศจากพลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้งภายในปี 2564

ผู้ประกอบการสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ของท่าน และค่อย ๆ ปรับสู่แนวคิด zero waste เพื่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังจะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของท่านอีกด้วย

ผมหวังว่าท่านผู้ประกอบการจะนำแนวโน้มที่กล่าวมาข้างต้น ไปประยุกต์เป็นเครื่องมือวางแผนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจของท่านพร้อมสำหรับการแข่งขัน สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว และอยู่รอดได้ในระบบนิเวศที่เปลี่ยนไป สวัสดีปีใหม่ครับ