วายแอลจี บูลเลี่ยน รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 29 มกราคม 2563

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 29 มกราคม 2563

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 15.17 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ฟื้นตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนลบถึง 5 วันทำการติดต่อกัน ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนมองว่าความพยายามอย่างหนักของจีน อาจช่วยบรรเทาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ จึงก่อให้เกิดแรงขายทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยออกมา นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ที่ออกมาดีเกินคาด สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์ขึ้นมาเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนจนเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ อีกทั้งต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่ง FedWatch Tool บ่งชี้ว่า มีโอกาสถึง 87.3% ที่เฟดจะ “คง” ดอกเบี้ยในการประชุมนัดนี้ จึงแนะนำจับตาแถลงการณ์หลังการประชุม(FOMC Statement) รวมไปถึง press conference ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตอย่างไร หากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Dovish มากกว่าคาดก็มีแนวโน้มจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ แต่หากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Dovish น้อยกว่าที่ตลาดคาด ก็อาจส่งผลกระตุ้นแรงขายในตลาดทองคำได้เช่นกัน

ปัจจัยทางเทคนิก

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,559-1,557 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือแนวต้านแรกบริเวณ 1,577 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,546-1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,559-1,557 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อ หรือตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,577-1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว

คำแนะนำ หลังจากมีแรงขายทำกำไรกดดันให้ราคาอ่อนตัวลง ราคาทองคำยังมีกำลังซื้อที่ไม่มากนัก หากราคายังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,577 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง การเข้าซื้อในช่วงนี้จึงต้องเน้นไปที่รอจังหวะราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,559-1,557 ดอลลาร์ต่อออนซ์