ราคาหุ้น GULF เด้งทำจุดสูงสุดวันนี้ 178.50 บาท หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวแตกพาร์

ผู้ถือหุ้น “กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” ไฟเขียวแตกพาร์ฉลุย ราคาหุ้นเด้งรับทำจุดสูงสุดวันนี้ที่ 178.50 บาท ปิดตลาดย่อตัวลงมาที่ 168 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 7,143 ล้านบาท ด้าน บล.เอเซียพลัส มองมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับฐาน หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวจะปลอดภัยกว่า

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 มีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท โดยมีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังนี้ (ดูตาราง)

ภายหลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเท่าเดิมอยู่ที่ 10,666,500,000 บาท ทุนที่ออกและชำระแล้วเท่าเดิมอยู่ที่ 10,666,500,00 ล้านบาท แต่จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิม 2,133,300,000 หุ้น มาเป็น 10,666,500,000 หุ้น

ด้าน บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ผู้บริหาร GULF เปิดเผยคาดว่าการซื้อขายหุ้นด้วยราคาพาร์ใหม่ได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยประเด็นดังกล่าวส่งผลให้การซื้อขายหุ้น GULF มีสภาพคล่องมากขึ้น แต่ไม่ทำให้ปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของ GULF เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 18% เพียงแค่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนล่าสุดใกล้เคียงกับ Fair Value ที่ให้ไว้ จึงเชื่อว่ามีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับฐาน ดังนั้นจึงแนะนำหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวจะปลอดภัยกว่า

โดยปิดตลาดวันนี้(8 เม.ย.) ราคาหุ้น GULF ปิดที่ 168 บาท เปลี่ยนแปลง 3.70% จากวันก่อนหน้า(7 เม.ย.) โดยเคลื่อนไหวสูงสุดที่ราคา 178.50 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 7,143 ล้านบาท

นอกจากนี้มีมติผู้ถือหุ้นอนุมัติจัดสรรเงินกำไรสุทธิประจำปีจำนวน 155,000,045 บาท เป็นทุนสำรองตามมาตรา 116 ของพระราชบัญญัติบริษัท มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม) (พ.ร.บ.บริษัทมหาชน จำกัด) และข้อบังคับของบริษัท ข้อ 45 หรือคิดเป็น 5% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทประจำปี 2562 ซึ่งมีจำนวนเท่ากับ 3,100,000,909 บาท


ขณะที่มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมในจำนวน 1.30 บาท ต่อหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,773,290,000บาท หรือคิดเป็น 89.5% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่กำหนดไว้ โดยการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563