ธปท.หนุนแบงก์ให้รางวัล “ลูกหนี้ดี” ลดดอกเบี้ย-แคชแบ็ค

ธปท.หนุนแบงก์ให้รางวัลลูกหนี้ประวัติชำระดี เสนอแรงจูงใจลดดอกเบี้ย-แคชแบ็ค ลั่นไม่ออกเกณฑ์บังคับให้แบงก์พิจารณาตามความเหมาะสม เผยยอดปรับโครงสร้างหนี้แตะ 15 ล้านราย วงเงิน 3.8 ล้านล้านบาท

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า นอกจากการออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระยะที่สอง ในครั้งนี้ ธปท.ยังมีการหารือร่วมกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือลูกหนี้ดี ที่มีประวัติชำระดีต่อเนื่อง และไม่ได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือ เพื่อสร้างแรงจูงใจ (Incentive) กระตุ้นให้เป็นลูกหนี้ดีต่อไปในระยะข้างหน้า

อาทิ เช่น การลดดอกเบี้ย การให้รางวัลเป็นบัตรกำนัล (Voucher) การให้เงินคืนกลับเข้าบัญชี (Cashback) เป็นต้น ซึ่งการหาแนวทางช่วยลูกหนี้ดีครั้งนี้ ธปท.ไม่ได้บังคับ หรือกำหนดธนาคารจะต้องทำ แต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสมกับลูกหนี้

“แนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ ธปท.คงไม่ได้บังคับหรือกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เป็นเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งมีโครงสร้างลูกค้าแตกต่างกัน ซึ่งธนาคารจะรู้จักลูกค้าตัวเองดีที่สุด คาดว่ามาตรการสร้างแรงจูงใจน่าจะทยอยออกมาให้เห็น และเราคิดว่าลูกหนี้ดีเองก็ต้องการรักษาเครดิต เพราะระยะข้างหน้าเวลาเกิดมีปัญหาเขาจะได้เข้าถึงเครดิตที่ง่ายขึ้น”

สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระยะที่สอง อาทิเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตจาก 18% เหลือ 16% สินเชื่อกดเงินสดจาก 28% เหลือ 25% และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 28% เหลือ 25% รวมถึงการแปลงสินเชื่อระยะสั้นเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 เดือน และการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตชั่วคราวจาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่าของเงินเดือน

Advertisment

ทั้งนี้ ตัวเลขการช่วยเหลือลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2563 มีลูกค้าเข้าโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว 15 ล้านราย วงเงิน 3.8 ล้านล้านบาท

“เราหวังว่ามาตรการระยะที่ 2 นี้ น่าจะช่วยลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 13 ล้านราย ซึ่งก็มีทั้งกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ได้เข้าระยะหนึ่ง และมาเข้าระยะที่ 2 หรือคนที่เข้าโครงการที่ 1 แต่ยังมีปัญหาก็สามารถต่อมาตรการนี้ได้”