GULF ทุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลมในเยอรมนี ถือหุ้น 50%

GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุ่มเงิน 1.9 หมื่นล้าน เข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังลมในทะเล ในประเทศเยอรมนี ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้า 464.8 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 50%

เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (7 ก.ค.) เว็บไซต์ของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) ได้เผยแพร่เอกสารของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งแจ้งต่อ ต.ล.ท. ถึง การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ขนาดกำลังการผลิต 464.8 เมกะวัตต์ที่ประเทศเยอรมนี

GULF แจ้งว่า Gulf International Holding Pte. Ltd. หรือ GIH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่ม Global Infrastructure Partners หรือ GIP เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของ Borkum Riffgrund 2 Investor Holding GmbH, Frankfurt am Main, Germany (BKR2 Holding) ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 50 ในโครงการ Borkum Riffgrund 2 Offshore Wind Farm GmbH & Co. oHG (“โครงการ BKR2”) ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 548-558 ล้านยูโร หรือประมาณ 19,219-19,570 ล้านบาท

โดยส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 ถือหุ้นโดยบริษัทในกลุ่ม Ørsted A/S (Ørsted) หรือเดิมชื่อ DONG Energy โดยสัญญามีผลใช้บังคับในวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 นี้

เอกสารดังกล่าวอธิบายถึงโครงการ BKR2 นี้ว่า เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ โดยมีขนาดกำลังการผลิตส่งออก 450.0 เมกะวัตต์และตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และสัญญาบำรุงรักษากับกลุ่มบริษัท Ørsted เป็นระยะเวลา 20 ปีจากวันที่เปิดดำเนินการ

คาดเสริมแกร่งธุรกิจ-รับรู้รายได้ทันที

GULF ระบุด้วยว่า โครงการ BKR2 มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ feed-in tariff (FiT) ที่รับประกันโดยรัฐบาลประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 9.5 ปี หลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และจะได้รับค่าไฟฟ้าตาม merchant price โดยมีการรับประกันราคาขั้นต่ำสำหรับปีที่ 9.5-20 จึงส่งผลให้โครงการดังกล่าวมี
เสถียรภาพทางรายได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ GULF อธิบายว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของโครงการ BKR2 ที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจไปยังพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการ BKR2 มีผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งอย่าง Ørsted ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจพลังงานลมในทะเล โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลติดตั ้งทั่วโลกรวม 6.8 กิกะวัตต์และอีก 3.1 กิกะวัตต์ ที่จะสร้างเสร็จภายในปี2565 ในหลายประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร เยอรมนี เดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นต้น นอกจากนี้ Ørsted ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวกว่า 25 ปี และเป็นผู้ดำเนินการโครงการ BKR2 ซึ่งจะทำให้สามารถร่วมงานด้วยกันต่อไปเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ” GULF ระบุผ่านจดหมายดังกล่าว

เอกสารดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การดำเนินการในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในระดับสากล และเนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ทันทีหลังจากการโอนหุ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ