SCB ลุยเอง! ตั้ง “บริษัทโบรกเกอร์ประกัน” เพิ่มความคล่องตัว-หนุนรายได้ค่าฟี

“ธนาคารไทยพาณิชย์” บุกตลาดประกันเต็มรูปแบบ ลุยเอง! เปิดบริษัทย่อยในเครือ ”ไทยพาณิชย์ โพรเทค” (โบรกเกอร์ประกันภัย) เพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม-หนุนความคล่องตัวขายประกันได้หลายแห่ง ประเดิมปั้นที่ปรึกษาทางการเงิน 500 คน ภายในสิ้นปี 63 คาดปี 64 เพิ่มเป็น 2,000 คน หนุนเบี้ยรับหลักพันล้านบาท

นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกันภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้บริษัทย่อยของธนาคาร (ไทยพาณิชย์โพรเทค) ที่ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย ด้วยทุนจดทะเบียนชำระเต็มจำนวน 303 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายไตรมาส 3/63 โดยเน้นนำเสนอความคุ้มครองผ่าน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการหลักคือ 1.ประกันชีวิต 2.ประกันสุขภาพ 3.ประกันทรัพย์สิน และ 4.ประกันออมทรัพย์ มาเน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไป (แมส) ซึ่งมีอยู่มากกว่า 5-6 ล้านคน บนฐานลูกค้าของธนาคารทั้งหมด 16 ล้านคน ซึ่งลูกค้ากลุ่มแมสของธนาคารปัจจุบันมีประกันอยู่เพียง 3% เท่านั้น

“เราต้องการเข้าไปเสริมการขายประกันลูกค้ากลุ่มแมสที่มีค่าเฉลี่ยเบี้ย 1-2 หมื่นบาทต่อรายเพิ่มจากที่แบงก์มีทีมสาขาที่ดูแลลูกค้าเวลธ์อยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ค่อนข้างมีเบี้ยไซต์ใหญ่เป็นหลักแสนต่อราย ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ากลุ่มเวลธ์อยู่กว่า 6-7 แสนคน”

ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนพอร์ตสินค้าที่จะนำเบี้ยเข้ามาเบื้องต้นจะมาจากสัดส่วนเบี้ยประกันออมทรัพย์ระยะยาว+ความคุ้มครองชีวิต 20-30% ความคุ้มครองชีวิต+สุขภาพโรคร้ายแรง+อุบัติเหตุ 30-40% ความคุ้มครองทรัพย์สินทั้งส่วนประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย และประกันภัยบ้าน 15% ส่วนที่เหลือจะเป็นแบบประกันอื่นๆ

“เราจะบุกตลาดผ่าน 3 ช่องทางหลักคือ 1.ที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) ซึ่งตั้งเป้ารีครูทให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ 500 คน และในปี 2564 จะเพิ่มเป็น 2,000 คน และคาดหวังให้ได้ตำบลละ 1 คนทั่วประเทศในอนาคต โดยจะเป็นช่องทางหลักที่สร้างเบี้ยประกันในสัดส่วนมากถึง 80-90% ส่วนที่เหลือจะมาจากช่องทางเทเลเซลล์และช่องทางดิจิทัล ฉะนั้นปีนี้จะเป็นปีที่เราเน้นการสร้างทีม ส่วนปีหน้าจะเห็นเบี้ยประกันเข้ามาได้เต็มๆ มูลค่าเป็นหลักพันล้านบาท” นางสาวปรมาศิริกล่าว

โดยพันธมิตรในปัจจุบันจะมีพาร์ตเนอร์หลักในฝั่งธุรกิจประกันชีวิตคือ บมจ.เอฟดับบลิวดีประกันชีวิต (FWD) และ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) เนื่องจากมีข้อตกลงสัญญาที่ดีผ่านช่องทางขายประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) แต่ในอนาคตก็มีโอกาสขยายพาร์ตเนอร์เพิ่มเติม ส่วนทางฝั่งธุรกิจประกันวินาศภัยมีพันธมิตรหลักคือ บมจ.เทเวศประกันภัย แต่ขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้สำหรับรายได้ของที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) จะมีเงินเดือนประจำ 13,000 บาท ค่าโทรศัพท์+ค่าเดินทาง 1,000 บาท และโบนัส (ขึ้นอยู่กับผลงาน)

ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจจะมีส่วนให้ลูกค้าเกิดการเวนคืนกรมธรรม์มากขึ้น นางสาวปรมาศิริกล่าวว่า โดยปัจจุบันพอร์ตประกันของธนาคารส่วนใหญ่จะเป็นพอร์ตออมทรัพย์ ทำให้ลูกค้าตระหนักถึงผลตอบแทนจึงไม่ค่อยเกิดการเวนคืน ขณะเดียวกันทาง SCBLIFE ก็มีการขยายระยะเวลาการต่ออายุกรมธรรม์ให้ด้วย