โบรกฯ เก็งนักลงทุนสถาบันหันซบหุ้นปันผล หลังจบฤดูประกาศงบ Q2

บล.เมย์แบงก์ฯ เก็งเม็ดเงินกองทุนในประเทศเข้าซื้อหุ้นปันผลเด่น หลังหมดรอบเล่นเก็งกำไรงบไตรมาส 2 ชี้ปัจจัยเสี่ยงตลาดหุ้นไทย ‘ม็อบนักศึกษา-ประกาศงบโค้งสุดท้าย’ ประเมินกรอบ SET Index สัปดาห์นี้ที่ 1,300-1,350 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันที่ 11 ส.ค.63 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดบวกที่ 1,336.84 จุด ปรับขึ้น 14.83 จุด หรือปรับขึ้น 1.12% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 71,983.87 ล้านบาท โดยคาดว่าตลาดหุ้นเล่นตามข่าวบวกเฉพาะกลุ่ม หลังสหภาพยุโรปประกาศรับนักท่องเที่ยวจาก 11 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้โมเมนตัมของหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม และสนามบิน ปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้มีนัยยะสำคัญต่อตลาดหุ้นในภาพรวมมากนัก กอปรกับเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 โค้งสุดท้าย ส่งผลให้ดัชนียังไม่สามารถเคลื่อนผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,340-1,350 จุดได้ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในวันทำการถัดไป (13 ส.ค.63) ที่แนวรับ 1,300-1,315 จุด และแนวต้านที่ 1,350 จุด

ส่วนปัจจัยแวดล้อม ให้น้ำหนักกับการเมืองในประเทศมากที่สุด เนื่องจากการชุมนุมของเยาวชนในครั้งนี้เริ่มขยายวงกล้างขึ้น ประกอบกับเป็นปัจจัยที่ยังไม่มีความชัดเจน จึงเป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตาดู ส่วนการประชุมร่วมกันระหว่างสหรัฐกับจีนในวันที่ 15 ส.ค.คาดว่าจะเป็นการพูดคุยถึงข้อตกลงการค้าที่ทั้ง 2 ประเทศไม่สามารถทำได้สำเร็จในช่วงโควิด-19

“เรามีมุมมองตลาดแกว่งไซด์เวย์ค่อนไปในแดนลบ เนื่องจากในสัปดาห์ที่เหลือนี้ ตลาดก็ยังกังวลเรื่องของเทรดวอร์ รวมถึงงบการเงินที่จะประกาศโค้งสุดท้าย ขณะที่สัปดาห์ถัดไปจะมีการประกาศจีดีพีไตรมาส 2 ของไทย ซึ่งทุกคนคาดการณ์ว่าจะออกมาติดลบหนักมาก โดยเมย์แบงก์ฯ คาดการณ์ที่ติดลบ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)” นายวิจิตร กล่าว

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อขายเก็งกำไรด้วยวงเงินที่จำกัด และระมัดระวังการเลือกลงทุน โดยคาดการณ์ว่า หลังหมดช่วงประกาศผลประกอบการ นักลงทุนสถาบัน (กองทุน) จะวิ่งเข้าไปลงทุนในหุ้นที่จะจ่ายปันผลระหว่างกาลในระยะถัดไป ซึ่งในปีนี้ที่กลุ่มธนาคารไม่สามารถจ่ายปันผลได้ จึงคาดว่าหุ้นในกลุ่มสื่อสารอย่าง บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) จะได้อานิสงส์เม็ดเงินลงทุนของสถาบันไป จากอัตราเงินปันผลปี 2563 ที่ประมาณ 5% รวมถึง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ปันผล 3.5%