ธนารักษ์จ่ออุ้มค่าเช่า 10 ธุรกิจ “AOT-วิทยุการบิน” ลุ้นลด 50%

ธนารักษ์เร่งเคลียร์กรณีธุรกิจกว่า 10 รายเสนอขอ “เลื่อน/ลด/ยกเว้น” ค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ บรรเทาผลกระทบโควิด-19 เผยนอกจาก “AOT” ยังมี “วิทยุการบิน-ท่าเรือภูเก็ต-โรงแรมพิษณุโลก” อธิบดีกรมธนารักษ์ลั่นเคาะข้อสรุปจบใน ก.ย.นี้ ยันไม่กระทบรายได้นำส่งคลัง มั่นใจปีงบประมาณ 2563 นี้นำส่งทะลุ 1 หมื่นล้านบาทแน่นอน

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีธุรกิจกว่า 10 ราย ส่งหนังสือมายังกรม เพื่อขอให้พิจารณาลดค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ลง 50% และบางรายขอยกเว้นค่าเช่า อาทิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) บมจ.วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ท่าเรือภูเก็ต รวมถึงธุรกิจโรมแรมทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น โรงแรมในจังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น ซึ่งกรมกำลังพิจารณาในรายละเอียดว่า ตามระเบียบสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ทั้งนี้ น่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในเดือน ก.ย.นี้

“มาตรการเลื่อนจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ของเดิมจะครบกำหนดในเดือน ส.ค.นี้ กรมจึงจะพิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อว่าจะเลื่อนการเก็บค่าเช่าต่อไปอีก หรือจะมีการลดค่าเช่าที่ลงตามที่ธุรกิจหลายแห่งขอเข้ามาหรือไม่ โดยกรมได้ให้ธุรกิจกลับไปทำแบบสรุปรายรับรายจ่ายที่ผ่านมา ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ตั้งแต่เดือน ก.พ.-ส.ค. 2563 เพื่อที่กรมจะได้เข้าไปดูในภาพรวม และกฎระเบียบอีกครั้ง ว่าจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไร” นายยุทธนากล่าว

โดยหากจะมีการลดค่าเช่าที่ราชพัสดุให้ อาจจะต้องพิจารณาร่วมกับผลประกอบการของธุรกิจด้วย ซึ่งหากดูผลประกอบการแล้วยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ก็อาจจะพิจารณาปรับลดค่าเช่าให้เพียง 30-40% เป็นต้น

ยุทธนา หยิมการุญ อธิบดีกรมธนารักษ์

ส่วนกิจการรายย่อยที่ไม่มีรายได้เลยในช่วงนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขอยกเว้นค่าเช่า เหมือนกับการเช่าที่ราชพัสดุเชิงเกษตร และที่อยู่อาศัย ก็อาจจะต้องแลกกับเงื่อนไขการรักษาการจ้างงาน โดยหากไม่มีการเลิกจ้างก็จะได้รับยกเว้นค่าเช่า

“การเลื่อนเก็บค่าเช่าไม่ได้กระทบการจัดเก็บรายได้ของกรม โดยในปีงบประมาณ 2563 กรมยังคงเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 8,700 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมา กรมมีการจัดระบบที่ราชพัสดุมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถชดเชยรายได้ส่วนนี้ได้ รวมถึงยังมีพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษในการหารายได้ เช่น ที่จังหวัดมุกดาหาร หนองคาย ตาก เป็นต้น ยังมีท่าเรือสงขลา และยังมีสนามกอล์ฟบางพระที่จะเปิดประมูล รวมทั้งยังมีการนำที่ดินที่ถูกยึดตามกฎหมายต่าง ๆ มาจำหน่าย ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางในการช่วยชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป ล่าสุดกรมสามารถจัดเก็บรายได้ได้สูงกว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว” นายยุทธนากล่าว

อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวอีกว่า ส่วนในปีงบประมาณ 2564 กรมตั้งเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 9,200 ล้านบาท แต่ตั้งใจว่าจะต้องทำให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกรมจะมีรายได้จากพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุที่เพิ่งปรับปรุงใหม่เมื่อปี 2562 ซึ่งรัฐวิสาหกิจจะต้องจ่ายค่าเช่าที่ให้กับกรม โดยขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อดึงที่ราชพัสดุที่อยู่ในความครอบครองราว 6 แสนไร่ มาเข้าระบบจ่ายค่าเช่าให้กรม แต่ต้องขึ้นกับทาง กฟผ.ว่าจะมีการส่งคืนที่ดินบางส่วน หรือจะตกลงเช่าทั้งหมด

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2564 กรมธนารักษ์จะเน้นโครงการจัดเช่าที่ราชพัสดุ โดยจัดระเบียบที่มีการบุกรุกให้เข้าสู่ระบบทั้งหมด หลังจากในปีงบประมาณ 2563 คาดว่าจะจัดเข้าระบบได้มากกว่า 3 หมื่นราย ซึ่งปีหน้าน่าจะได้อีก 5-6 หมื่นราย จากผู้บุกรุกที่ราชพัสดุทั่วประเทศราว 2.5 แสนราย และที่เหลือก็จะดำเนินการในปีต่อ ๆไป ทั้งนี้ ถือว่าสามารถจัดระบบได้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่คาดว่าจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปี

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า กรมธนารักษ์อาจจะพิจารณาลดค่าเช่าสนามบินให้กับทาง บมจ.ท่าอากาศยานไทย 50% ตามที่มีการเสนอเข้ามาให้พิจารณา ซึ่งจะทำให้ AOT มีภาระจ่ายค่าเช่าเพียง 1,400 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องจ่าย 2,900 ล้านบาท อย่างไรก็ดี กรมธนารักษ์อาจจะพิจารณาลดให้เป็นรายปี ไม่ใช่ลดให้ทีเดียว 3 ปีรวดตามที่ร้องขอมา