ทองคำไร้ปัจจัยหนุนราคาไม่วิ่ง 3 ผู้ค้าใหญ่โอด “เยาวราช” เงียบ

ร้านทองเยาวราช
แฟ้มภาพ

“ทองคำ” ไร้ปัจจัยหนุนราคาไม่วิ่ง เทศกาลตรุษจีนปลุกไม่ขึ้น ผู้ค้ารายใหญ่ “ฮั่วเซ่งเฮง-วายแอลจี-จินฮั้วเฮง” โอดหน้าร้านซบเซา-เยาวราชไร้เงาคนซื้อ ลงทุน “ทองแท่ง” ไม่คึกคัก ลุ้นก่อนวันตรุษจีนตลาดฟื้นตัว หันออกโปรดักต์ขนาดเล็ก-ออมทองออนไลน์จับลูกค้ารายย่อย ฝั่งกองทุนแนะนำ “ลด” ถือทองคำ หมดรอบเก็งกำไร

ดอลลาร์แข็งค่าฉุดทอง

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ผู้ค้าทองรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ราคาทองคำทั้งในและต่างประเทศยังปรับขึ้นได้จำกัด โดยราคาทองคำในประเทศช่วงเดือน ม.ค. 64 ปรับตัวลง 650 บาท/บาททองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งรับซื้อที่ 26,100.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 26,200.00 บาท/บาททองคำ ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้อที่ 25,635.56 บาท/บาททองคำ และขายออกที่ 26,700.00 บาท/บาททองคำ

ส่วนราคาทองคำต่างประเทศ (Gold Spot) ในเดือน ม.ค. 2564 ปรับขึ้น 3.66 ดอลลาร์ หรือ 0.20% มาอยู่ที่ 1,848.64 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับราคาทองคำในประเทศที่ปรับตัวลงมากกว่าต่างประเทศนั้น คาดว่าเป็นผลกระทบจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากปัจจัยความไม่ชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจต้องปรับลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยประกาศไว้ที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากสภาคองเกรสไม่เห็นด้วย

ร้านทองเยาวราชซบเซา

นายธนรัชต์กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดทองคำในเดือน ก.พ. 64 คาดหวังให้มีแรงซื้อในเทศกาลตรุษจีนเข้ามาช่วยหนุน โดยคาดการณ์ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศจะฟื้นตัวจากความต้องการซื้อของประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าทั่วโลกจะยังได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ หลังวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ

“เรายังรอแรงซื้อช่วงตรุษจีนที่ปกติจะมีเข้ามาทุกปี แต่ตอนนี้ภาพยังไม่ชัดนัก เยาวราชก็ยังซบเซา แต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปที่จะเริ่มเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ก็คาดหวังให้คนกลับมา” นายธนรัชต์กล่าว

สำหรับตลาดซื้อขายทองคำแท่ง “ทรงตัว” ต่อเนื่องจากปลายปี 2563 หลังจากมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและความคืบหน้าของวัคซีนโควิด-19

ขณะที่ตลาดซื้อขายทองรูปพรรณคาดหวังว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่หดตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับที่ราคาทองคำพุ่งสูงทำให้ประชาชนสวนใหญ่นำทองคำที่เก็บสะสมออกมาขาย

“สัปดาห์นี้เรายังคงกรอบเดิม โดยราคาทองต่างประเทศอยู่ระหว่าง 1,835-1,863 เหรียญ ส่วนในประเทศ 26,300-26,450 บาท/บาททองคำ” นายธนรัชต์กล่าว

สำหรับในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮงยังออกสินค้าคอลเล็กชั่นพิเศษมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเช่นเคย โดยจัดชุดทองแท่งและทองรูปพรรณรูป 12 นักษัตร ที่ออกแบบทันสมัยสามารถซื้อแยกชิ้นตามน้ำหนักตั้งแต่ 1 กรัม 50 สตางค์ และ 1 บาท รวมถึงอั่งเปาทองคำ

ลงทุนทองไม่คึกคักไร้ปัจจัย

ด้าน นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ในปี 2563 พบว่าอุปสงค์และอุปทานพื้นฐานต่อทองคำจริง (physical demand) หดตัวทั่วโลก ได้แก่ ประเทศจีนหดตัวลง 30% ประเทศอินเดียลดลง 40% และไทยลดลง 270% ส่งผลให้ปีที่แล้วประเทศไทยกลายเป็นผู้ส่งออกทองคำสุทธิมากกว่า 100 ตัน จากเดิมที่เป็นประเทศผู้นำเข้ามาตลอด

ทั้งนี้เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ปีที่ผ่านมาราคาทองคำพุ่งสูงทำสถิติ ทำให้ราคาทองในประเทศทะลุ 3 หมื่นบาทต่อบาททองคำ ส่งผลประชาชนนำทองคำที่เก็บสะสมออกมาขาย ขณะที่การลงทุนในทองคำแท่งก็คึกคัก

“การซื้อขายทองแท่งจะคึกคักเวลาที่ราคาทองต่างประเทศเหวี่ยงแรง ซึ่งต้องยอมรับว่าต้นปีนี้การซื้อขายทองแท่งไม่คึกคักเท่าต้นปีก่อน ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่จะหนุนราคาทองคำอาจมีเข้ามาบ้าง เช่น ความไม่ชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ หรือวัคซีนของผู้ผลิตบางบริษัทได้ผลดีไม่เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็ถือเป็นประเด็นเก่าที่ตลาดรับรู้มาตลอด หากราคาทองจะปรับขึ้นได้สูง ๆ เหมือนเดือน มี.ค. 63 ก็ต้องมีปัจจัยลบใหม่ที่เข้ามาเซอร์ไพรส์ตลาดมาก ๆ” นางพวรรณ์กล่าว

สำหรับในช่วงเทศกาลตรุษจีน YLG ก็แนะนำบริการ “ออมทอง” ผ่านเว็บไซต์ ylggoldsaving.com ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบ ได้แก่ การเปิดพอร์ตลงทุนทองคำอัตโนมัติ และการออมเงินรายเดือน และลูกค้าสามารถนำทองคำที่ออมในระบบมาเปลี่ยนเป็นทองแท่งหรือทองรูปพรรณของจริงได้

ราคาทอง “ขาลง”

ขณะที่ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำและเจ้าของห้างทอง “จินฮั้วเฮง” กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในตอนนี้ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับช่วงตรุษจีนปีก่อน ๆ แต่เนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงอย่างมากในช่วงโควิด-19 สะท้อนจากการซื้อขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ค่อนข้างซบเซาลงเช่นกัน

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำในระยะข้างหน้า มองว่ามีความเสี่ยง “ขาลง” มากกว่าโอกาสที่จะปรับขึ้น เนื่องจากปัจจัยลบทั่วโลกที่เคยเป็นแรงหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเริ่มลดน้อยลง เช่น ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนที่ลดลง หลังประธานาธิบดีไบเดนเข้ามารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐคนใหม่ รวมถึงวัคซีนโควิด-19 เริ่มมีความชัดเจนขึ้น ทำให้ความกังวลโควิด-19 เบาบางลง

“สำหรับในช่วงตรุษจีน ซึ่งใกล้ ๆ กับวาเลนไทน์ จินฮั่วเฮงก็มีสินค้าให้ลูกค้าเลือกซื้อ ทั้งบัตรของขวัญ (gift card) ที่ราคาไม่แพงมาก จับกลุ่มหนุ่มสาวที่ให้เป็นของขวัญกัน สำหรับทิศทางราคาทองน่าจะไม่ถึง 27,000 บาท แม้เป็นช่วงตรุษจีนก็ตาม” นายจิตติกล่าว

กองทุนลดน้ำหนักถือทองคำ

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนพรินซิเพิลลดน้ำหนักการลงทุนทองคำลงเหลือ 2-5% เมื่อเทียบกับสัดส่วนการลงทุนทั้งหมด เนื่องจากมองว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำในปีที่ผ่านมาเกิดจากการเก็งกำไรและกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (fund flow) ที่ซื้อกองทุนดัชนีทองคำ (ETFs) ส่งผลให้ราคาทองคำทำลายสถิติสูงสุด โดยให้ผลตอบแทนมากกว่า 25%

“เรายังเชื่อว่าทองคำในระยะยาวเป็นขาขึ้น แต่ในระยะสั้นอยากแนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรออกมาบางส่วนก่อน เพราะราคาคงยังไม่สามารถปรับขึ้นเร็ว ๆ นี้” นายวินกล่าว