“วิริยะประกันภัย” เผยปี’63 เบี้ยประกันรถยนต์ลดลง 4.3% เหลือ 33,315 ล้านบาท รับยอดขายรถป้ายแดงหดตัว ยอมรับกำลังซื้อปี’64 ยังลดลงบางส่วน กางแผนลุยเตลาดรถ-สุขภาพ เจาะกลุ่มลูกค้าแมส พร้อมกางแผน 5 ปี ทุ่มงบ 200 ล้านบาท จับมือบริษัทซอฟต์แวร์โลกวางระบบเทคโนโลยีหลังบ้านเชื่อมต่อบนแพลตฟอร์มเดียว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
นายอมร ทองธิว กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย เปิดเผยว่า เมื่อปี 2563 เบี้ยประกันภัยรับรวมลดลง 1.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหลืออยู่ที่ 38,143 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันรถยนต์(Motor) ที่ 33,315 ล้านบาท ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า และประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์(Non Motor) ที่ 4,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% จากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้บริษัทมีกำไรจากการรับประกันภัยราว 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 เพราะนโยบายการเพิ่มสัดส่วนประกัน Non Motor มากขึ้น ขณะที่กำไรจากการลงทุนราว 1,300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2562 โดยสิ้นปี 2563 บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 76,149 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2.7% จากปี 2562 หรือคิดเป็นอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุน(CAR) อยู่ที่ 224.70% สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กฏหมายกำหนดไว้ที่ 120%
ทั้งนี้บริษัทวางแผน 5 ปีจากนี้ เตรียมงบลงทุน 200 ล้านบาท ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีขององค์กรผ่านความร่วมมือ Oracle, Microsoft, MuleSoft เพื่อสร้างระบบหลังบ้านของธุรกิจให้อยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกันทั้งหมด
นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่กำลังซื้อในตลาดอาจจะลดลงบางส่วน ช่องทางการขายผ่านธนาคารอาจลดลง และยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ไม่เพิ่มขึ้น ย่อมทำให้บริษัทต้องปรับแบบประกันให้สอดคล้องกับความต้องการ โดยเฉพาะในประกันภัยรถยนต์ชั้น 3, 4, 5 ที่แม้ทุนเอาประกันจะลดลงตามค่าเสื่อมรถ แต่ยังมีความคุ้มครองที่ลูกค้าต้องการ เช่น ความคุ้มครองรับผิดบุคคลภายนอก เป็นต้น
ขณะเดียวกันบริษัทจำต้องดูแลลูกค้าเก่าไว้ให้ดี ซึ่งในการสร้างสมดุลนี้ ถือว่าทำได้ดีมากๆ แม้ยอดประกันรถป้ายแดงลดลง แต่อัตราการต่ออายุกรมธรรม์ประกันรถอยู่ที่ 70% ทั้งนี้ทางบริษัทยังมุ่งการเพิ่มอัตราการต่ออายุ โดยจะทำกระบวนการเคลม (เรียกร้องสินไหมทดแทน) ให้เร็วยิ่งขึ้น
“ปีที่ผ่านมาสัดส่วน Motor ลดลงเล็กน้อยเป็นไปตามกลไกตลาด แม้รถยนต์ใหม่จะลดลง แต่งานที่ทำต้องเน้นการต่ออายุให้ต่อเนื่อง และขยายตลาด Non Motor เพิ่มขึ้นด้วย” นายสยมกล่าว
นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย กล่าวว่า สำหรับแผนงานด้าน Non Motor ปี 2563 สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นมาอยู่ที่ 4.5% จากปี 2562 ที่อยู่ราว 4.1% และปี 2564 เตรียมออกแบบประกันสุขภาพใหม่ให้ความคุ้มครองเฉพาะกลุ่มโรค และจะปรับแบบประกันต่างๆ ให้เข้าถึงลูกค้าเฉพาะกลุ่มและมีเงื่อนไขที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงการปรับแบบประกันอุบัติเหตุ และความคุ้มครองประกันภัยโควิด-19 ในเรื่องความคุ้มครองกรณีโคม่าเพิ่มเติมต่อไปด้วย
โดยปีที่ผ่านมาบริษัทยังคงสามารถเพิ่มสัดส่วนงานประกันภัย Non-Motor ให้มีสัดส่วนที่ 12.65% ของเบี้ยรับรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 10.48% โดยเบี้ยประกันภัยสุขภาพสามารถเติบโตได้ถึง 317.85% จากการขายประกันภัยโควิด-19 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแผน “ประกันโควิด-19 ชีลด์”
