ผ่านยื่นทบทวนสิทธิ์ “เราชนะ” รับเงินรวดเดียว 7,000 บาท 25 มี.ค.นี้

เราชนะ-เป๋าตัง

“เราชนะ” ผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 22 ก.พ. – 8 มี.ค. และผู้ยื่นภาษีปี 63 ภายใน 8 มี.ค. ตรวจสอบผลผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มี.ค.นี้ รับเงินรวดเดียว 7,000 บาท 25 มี.ค.64 ยอดใช้จ่ายล่าสุด 124,105 ล้านบาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ยื่นทบทวนสิทธิ์ ในโครงการ “เราชนะ” ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 รวมถึงผู้ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 แล้ว ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 สามารถตรวจสอบผลการทบทวนสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564เป็นต้นไป

ผ่านทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) หมายเลขโทรศัพท์ 0-2111-1122 โดยผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท ในวันที่ 25 มีนาคม 2564

และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

ขณะที่ความคืบหน้าการใช้สิทธิ์ ในโครงการ “เราชนะ” ณ วันที่ 18 มีนาคม 2564 มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 124,105 ล้านบาท

แบ่งเป็น 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 51,060 ล้านบาท

2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 70,068 ล้านบาท

3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,977 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่ง ที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ