คนไทยใช้ “โมบายแบงกิ้ง-อีวอลเล็ต” พุ่งต่อเนื่อง ท่ามกลางโควิดระลอกใหม่

เปิดสถิติใหม่! คนไทยใช้ “โมบายแบงกิ้ง-อีวอลเล็ต” พุ่งต่อเนื่อง ท่ามกลางโควิดระลอกใหม่

วันที่ 9 พฤษถาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจ พบว่า ปริมาณการใช้งานผ่าน Mobile Banking และ e-Wallet ยังคงเติบโต ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยผู้บริโภคไทยโดยภาพรวมมีการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน Mobile banking และ e-Wallet อยู่ที่ 19 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มมากกว่าผลสำรวจการใช้งานภายหลังจากการระบาดระลอกแรกในเดือนสิงหาคม 2563 ที่มีอัตราการใช้งานอยู่ที่ 17 ครั้งต่อสัปดาห์ 

ขณะที่มีผู้บริโภคกว่าร้อยละ 53.9 มีการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาจากกล่มผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่จำกัด อาทิ พนักงานบริษัทขนาดใหญ่ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ยังเห็นการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะของการ Work from Home และการลดการเดินทางเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการแพร่ระบาดของโควิด 

ขณะที่ ผู้บริโภคที่ซื้อเพิ่มขึ้นนี้มียอดการซื้อต่อครั้งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจครั้งก่อน 350 บาท โดยยังคงเน้นการใช้จ่ายไปที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้าแฟชั่น เหมือนดังการสำรวจรอบก่อนหน้า

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2564 ปริมาณการทำธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินผ่าน Mobile Banking จะขยายตัวราวร้อยละ 80.2 – 83.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ซึ่งเร่งขึ้นจากปี 2563 ที่ร้อยละ 79.7 

เช่นเดียวกับประมาณธุรกรรมผ่าน e-Money ที่คาดว่าจะเติบโตราวร้อยละ 15.8 – 18.0 ซึ่งสูงกว่าปี 2563 ที่ร้อยละ 8.7 ด้านมูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking คาดว่าจะขยายตัวราวร้อยละ 36.5 – 38.0 YoY ใกล้เคียงกับปี 2563 

ขณะที่ มูลค่าการทำธรกรรมผ่าน e-Money คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 15.5-17.7 ซึ่งสะท้อนการเติบโตเร่งขึ้นจากร้อยละ 9.9 ในปี 2563 โดยน่าจะมีแรงผลักดันหลักมาจากการใช้ G-Wallet (เป๋าตัง) จากโครงการช่วยเหลือของภาครัฐที่น่าจะมีอย่างต่อเนื่องในปี 2564 อีกทั้ง ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือและมีศักยภาพที่เข้ามาทำการตลาดมากขึ้นด้วย