GULF มติประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติซื้อหุ้นทั้งหมด INTUCH-ADVANC

“กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ มติประชุมผู้ถือหุ้น 99.7374% อนุมัติซื้อหุ้นทั้งหมดของ INTUCH-ADVANC

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า มติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้สัดส่วนกว่า 99.7374% อนุมัติการลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH)

โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ (conditional voluntary tender offer) และ/หรือโดยการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือวิธีอื่นใด รวมถึงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ซึ่งเข้าข่ายเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3/4 ของจำนวนเสียง

รายงานข่าวระบุว่า ดีลดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เมื่อ 1 เม.ย. 64 มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นทั้งหมดของบริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จำนวน 2,599 ล้านหุ้น คำนวณหุ้นละ 65 บาทนับรวมเป็นมูลค่าดีลกว่า 1.6 แสนล้านบาท ทำให้กัลฟ์กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 81.07% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ในสัดส่วน 18.07% ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของกัลฟ์ในฐานะเจ้าตลาดพลังงาน

แต่ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยยังมีเหลือเพียงพอกับการเติบโตด้านความต้องการใช้พลังงานของประเทศ ทำให้ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาการเติบโตในธุรกิจหลัก “ช้าลง” ซึ่งส่งผลให้บริษัทเริ่มมีการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค รวมถึงธุรกิจก๊าซมากขึ้น

หลังจากที่ประชุมวิสามัญวันนี้มีมติเห็นชอบรายงานความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของ INTUCH โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนการทำคำเสนอซื้อ หรือ conditional voluntary tender offer และ/หรือโดยการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือโดยวิธีอื่นใด รวมถึงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC” ซึ่งจัดทำโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ บริษัท ดิสคัฟเวอร์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ก็คาดว่ามีความเป็นไปได้ในการทำดีลน่าจะสำเร็จตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ในเดือน ก.ค. 2564

โดยการลงทุนในธุรกิจครั้งนี้ถือว่ามีเสถียรภาพเติบโตและสอดคล้องกับกลยุทธ์ในอนาคตของกัลฟ์ เป็นโอกาสที่บริษัทจะเชื่อมโยงกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมได้อย่างรวดเร็ว และช่วยเพิ่มความหลากหลายกระจายความเสี่ยงให้กับธุรกิจ

ทั้งนี้ ธุรกิจด้านสื่อสาร โทรคมนาคม และบริการดิจิทัล เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระดับ “ต่ำ” เมื่อเทียบกับธุรกิจชนิดอื่น โดยเฉพาะ 2 รายการนี้ถือเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อสาร มีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้าง “กระแสเงินสด”

ทำให้มีความสามารถสร้างผลตอบแทน “เงินปันผล” ได้สม่ำเสมอด้วย