ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังน้ำมันเบนซินคงคลังของสหรัฐปรับเพิ่ม สะท้อนอุปสงค์ที่ลดลง
ปัจจัยลบ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่หก หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ส.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะระดับ 228.17 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ายังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยลดลง 1% มาอยู่ที่ 9.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
ปัจจัยลบ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรในช่วงปีนี้ โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 93.359 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 63 ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้น
ปัจจัยลบ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี’64 ลง 120,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 5.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ยังจำกัดในภูมิภาค จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะเวียดนาม ที่กำลังเผชิญกับปัญหาปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง ที่อยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นที่ลดต่ำลง 11% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันยังคงถูกจำกัด จากมาตรการล็อกดาวน์
ที่มา ไทยออยล์