ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจัยบวก ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่การโหวตร่างกฎหมายได้ถูกเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง โดยการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ และสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมัน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ปัจจัยบวก ความต้องการใช้น้ำมันได้รับแรงหนุน หลังสหรัฐเปิดพรมแดนระหว่างประเทศรับชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2564 ส่งผลให้กิจกรรมการเดินทางในประเทศปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐมีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศมามากกว่า 18 เดือน
ปัจจัยลบ อย่างไรก็ตาม อุปทานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังเลขานุการด้านพลังงานสหรัฐ กล่าวว่าสหรัฐอาจพิจารณาปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อผ่อนคลายราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าหลายประเทศมีการเรียกร้องให้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานปรับเพิ่มจากอัตราการดำเนินโรงกลั่นในเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเดีย ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในหลายประเทศ
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นในประเทศจีน ขณะที่อุปสงค์ในออสเตรเลียปรับเพิ่มจากภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาดำเนินการต่อหลังจากมีการเปิดประเทศมากขึ้น
ที่มา : ไทยออยล์