ttb business one ปรับฟีเจอร์ใหม่ เพื่อเอสเอ็มอีเข้าถึงโมบายแอปที่ตอบโจทย์

ttb

ทีเอ็มบีธนชาตต่อยอดพัฒนา ttb business one “ทีทีบี บิสสิเนส วัน” โมบายแอปพลิเคชัjน เครื่องมือดิจิทัลระดับมืออาชีพ ให้ตอบโจทย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารและช่วยเอสเอ็มอียกระดับธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 นางสาวสุกัญญา ตรีเสน่ห์จิต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี (ttb) กล่าวว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนผู้ประกอบการมากถึง 3 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 99% ของผู้ประกอบการทั้งหมดในประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและส่งผลต่อ GDP ของประเทศถึง 42%

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการจ้างงานและกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ แต่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ตลอดเกือบ 2 ปี ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างได้รับผลกระทบอย่างมาก ต้องปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการพยายามเข้าถึงการใช้งานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตในยุคใหม่ของผู้บริโภคและบริหารธุรกิจของตนเองให้อยู่รอด

นางสาวสุกัญญา ตรีเสน่ห์จิต

นางสาวสุกัญญากล่าวด้วยว่า ความมุ่งมั่นของทีเอ็มบีธนชาต คือ การช่วยและสนับสนุนให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เราอยากให้ลูกค้ามีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาช่วยยกระดับการทำงานให้ดีขึ้น สะดวกขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ทำธุรกิจผ่านมือถือเป็นหลัก และก็ยังพบกับปัญหาจากการใช้มือถือในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น 

1) การทำธุรกรรมหลายประเภทต้องเข้าหลายระบบ

2) ไม่รู้ว่าเงินโอนรับเข้ามานั้นมาจากคู่ค้ารายใด

3) ไม่รู้วิธีการจ่ายหรือการโอนเงิน แบบไหนเร็วที่สุด ประหยัดที่สุด

4) โอนจ่ายโดยไม่รู้จำนวนเงินสำรองที่เหลือ

ดังนั้น การพัฒนาดิจิทัลแบงกิ้ง หรือโมบายแอปพลิเคชัjนให้ดี จึงมีความสำคัญมาก เราจึงต้องการยกระดับนวัตกรรมเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง โดยการออกแบบโมบายแอปพลิเคชัjนในครั้งนี้ล้วนมาจากความคิดเห็นของลูกค้าจริง ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้มากที่สุด โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าธุรกิจและเอสเอ็มอีที่ทำธุรกรรมบนดิจิทัลแบงกิ้ง ทั้งโมบายแอปพลิเคชัjน และอินเทอร์เน็ต รวมเกือบ 200,000 ราย

ด้านนายรัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารนวัตกรรมทางดิจิทัลลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี (ttb) กล่าวว่า การพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยและสนับสนุนลูกค้าของธนาคาร เริ่มต้นจากความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า โดยประสบการณ์ของลูกค้าเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการมาโดยตลอด ซึ่งตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมา

ซึ่งทางทีเอ็มบีธนชาตจึงได้นำเสนอบริการ ttb business one ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ในรูปแบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง เข้ามาเป็นผู้ช่วยทางการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้กับลูกค้าธุรกิจ ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี สามารถจัดการทุกอย่างได้ในที่เดียวผ่านคอนเซ็ปต์

  • One Platform ระบบเดียวเข้าได้จากทุกอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเลต และสมาร์ทโฟนโดยจะได้รับประสบการณ์เดียวกันทั้งหมด
  • One to Control ระบบเดียวทำได้ทุกธุรกรรม ซื้อ ขาย รับ จ่าย ทั้งในและต่างประเทศ ควบคุมธุรกิจได้จากที่เดียว
  • One to Command ระบบเดียวมองเห็นภาพรวมและข้อมูลสรุปทางการเงินภายในบริษัทด้วย
  • Dashboard ที่เรียกดูง่ายและเข้าใจง่าย สามารถสั่งการต่อได้เลย
นายรัชกร ชยาภิรัต

ซึ่งถือว่า ttb business one ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าของเราเป็นอย่างดี สะท้อนได้จากจำนวนลูกค้าของธนาคาร เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาใช้ช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น 60% และลูกค้าธุรกิจทั้งหมดมีจำนวนรายการที่ทำผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นเกือบสองเท่าตัว หรือเพิ่มขึ้น 160% ขณะที่สัดส่วนการทำธุรกรรมของลูกค้าระหว่างช่องทางดิจิทัลกับช่องทางสาขาเปลี่ยนจาก 40% ต่อ 60% เป็น 80% ต่อ 20%

ทีเอ็มบีธนชาตได้พัฒนา ttb business one ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ไปอีกขั้นในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชัjน ด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เพื่อต้องการจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้บริหารธุรกิจได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วย 4 ประเด็นดังนี้ 

1) สามารถควบคุมทุกเรื่องธุรกิจได้จากมือถือ

2) ได้รับประสบการณ์เดียวกันจากทุกเครื่องมือ ไม่ว่าจะแท็บเลต หรือมือถืออย่างต่อเนื่อง เห็นทุกอย่างในโปรไฟล์เดียวกัน

 3) ทำได้ทุกธุรกรรมจากแอปเดียว ไม่ต้องเข้าหลายแอป จำหลาย user password เช่น โอนเงินในประเทศ ต่างประเทศ เรียกดูวงเงิน OD

 4) ใช้ง่าย สะดวก พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

นายรัชกรกล่าวต่อว่า  ธนาคารตั้งเป้าว่าด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะมีลูกค้ามาใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น 60% ภายในสิ้นปี และธนาคารจะยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำทางด้านการพัฒนาดิจิทัลโซลูชัjน และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นพันธมิตรที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจลูกค้าในทุกสถานการณ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน