ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง จากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐเร็วกว่าที่คาด
ปัจจัยลบ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลังนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาชิคาโก กล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งในปี 2565 หากอัตราเงินเฟ้อไม่ดีขึ้นเร็วพอ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานาน ธนาคารกลางสหรัฐจึงต้องดำเนินการปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่สูง อาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ เข้ามาควบคุมเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการฉุดรั้งราคาน้ำมันดิบในขณะที่สนับสนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ปัจจัยลบ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐปรับลดลง 294,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้อัตราการใช้ลดลง 1.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปัจจัยบวก ตลาดคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันมากนัก และจะกดดันตลาดในระยะสั้นเท่านั้น ในขณะที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นในอเมริกาเหนือจะช่วยสนับสนุนให้อุปสงค์น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นของอินโดนีเซีย ในขณะที่น้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนที่ปรับลดลงกว่า 38% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ที่มา : ไทยออยล์