วีซ่า เผยคนไทย 69% สนใจลงทุนคริปโต

บิตคอยน์
ภาพ Pixabay

วีซ่า ประเทศไทย เผยผลสำรวจคนไทยสนใจลงทุนในคริปโต 69% ส่วนจะนำมาใช้จ่ายขอดูนโยบาย ธปท.พร้อมปฏิบัติตาม มองโควิด-19 ดันสังคมไทยสู่สังคมไร้เงินสดเร็วขึ้นภายในปี 2570

วันที่ 2 มีนาคม 2565 นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจผู้บริโภค 1,000 คน อายุ 18-65 ปี ครอบคลุมในกลุ่ม Gen Z และ Gen Y ในส่วนของอนาคตการชำระเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ผ่านคริปโตเคอร์เรนซีนั้น พบว่าในมุมการลงทุนให้ความสนใจ 69% และไม่สนใจ 12% โดยกลุ่ม Gen Y ให้ความสนใจอยู่ที่ 79% กลุ่ม Gen Z อยู่ที่ 75% และ Gen X 61%

ทั้งนี้ ในมุมมองของวีซ่า ประเทศไทย ในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซีจะขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ หรือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะกำหนดทิศทางไปทางใด ซึ่งวีซ่าพร้อมจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

“จะเห็นว่าในบางประเทศในกลุ่มยุโรป วีซ่าได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มที่สามารถใช้คริปโตเคอร์เรนซีในการชำระเงิน โดยวีซ่าจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงกับ Fiat Currency และแปลงเป็นเงินสกุลนั้น โดยในแต่ละประเทศกฎกติกาไม่เหมือนกัน”

นายสุริพงษ์กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ได้เร็วขึ้นภายในปี 2570 จากคาดการณ์อยู่ที่ 2573 หรือใช้เวลา 7-8 ปี เหลือเพียง 3 ปี

สอดคล้องกับแบบสำรวจพบว่า 9 ใน 10 คนเลือกใช้จ่ายแบบไม่ใช้เงินสด หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 87% จากปีก่อนอยู่ที่ 82% และมีประมาณ 22% สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเงินสดภายใน 1 สัปดาห์ เพิ่มจาก 17% ขณะที่สามารถอยู่ได้ภายใน 1 เดือนสัดส่วนเพิ่มจาก 4% เป็น 5% และจากการสำรวจพบว่าสัดส่วนคนที่มั่นใจว่าจะสามารถอยู่ได้ภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่มีเงินสดเพิ่มจาก 68% มาอยู่ที่ 79%

ขณะเดียวกัน มีสัดส่วนผู้บริโภคที่พกเงินสดน้อยลงเพิ่มขึ้นจาก 3 ใน 10 คน เป็น 6 ใน 10 คน โดยมองว่าประโยชน์ของสังคมไร้เงินสด คือ การลดเชื้อโรคจากการจับเงินสด 68% และสามารถตรวจเช็คกอมูลการเงินได้ 58% มีความปลอดภัย 58% ใช้งานง่ายไม่ต้องรอคิว 57%

นอกจากนี้ สัดส่วนผู้บริโภคให้ความสนใจการใช้จ่ายผ่านบัตรแบบไร้สัมผัส (Contactless Card) เพิ่มขึ้นจาก 75% เป็น 86% และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับบัตรไร้สัมผัสมากขึ้นจาก 74% เป็น 87%

ตลอดจนการขยายไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะ โดยวีซ่าจะเป็น Payment Gateway ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีโครงการมากกว่า 500 โปรเจ็กต์ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยได้มีการร่วมมือไปแล้วกว่า 4 โครงการ ได้แก่ รถสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) จำนวน 2 เส้นทาง ทางด่วนโทลลเวย์ และกำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ เพิ่มเติม

“การจะเกิดสังคมไร้เงินสดได้ จะต้องสนับสนุนผ่านโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินที่พร้อมที่กระจายไปตามร้าน รวมถึงนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริม หรือผู้เล่นเองในส่วนของสถาบันการเงินที่จัดแคมเปญสนับสนุนให้เกิดสังคมไร้เงินสด อย่างไรก็ดี เชื่อว่าเงินสดก็คงยังต้องมีอยู่”