เปิดเกณฑ์กระดานเทรด SMEs-Startup คาดเทรดบริษัทแรกไตรมาส 3 นี้

ตลาดหลักทรัพย์-เล่นหุ้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯเปิดเกณฑ์จดทะเบียน-ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) หลังผ่านความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. มีผลบังคับใช้ 31 มี.ค. เผยมี 3 บริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนในปีนี้ คาดยื่นไฟลิ่งไตรมาส 2 และเริ่มซื้อขายใน LiVEx ไตรมาส 3 เป็นต้นไป

วันที่ 15 มีนาคม 2565 นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ออกเกณฑ์การจดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx)

ซึ่งมีความแตกต่างจาก SET และ mai ทั้งในส่วนของคุณสมบัติของผู้ออกหลักทรัพย์ และหน้าที่ภายหลังการเข้าจดทะเบียน รูปแบบและวิธีการลงทุนสำหรับกลุ่มผู้ลงทุนที่มีความรู้ ประสบการณ์ และฐานะการเงินในระดับที่สามารถรับความเสี่ยงได้ ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนด รวมถึงบทบาทการกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้แนวคิด Light-touch Supervision

“นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มอบหมายให้นายประพันธ์ เจริญประวัติ เป็นผู้จัดการ LiVEx เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) มีผลตั้งแต่ 15 มี.ค. 2565 เป็นต้นไป” นายแมนพงศ์กล่าว

Advertisment

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ LiVEx กล่าวว่า LiVEx ออกแบบขึ้นเพื่อธุรกิจ SMEs และ Startups ที่ต้องการเติบโต แต่ยังขาดโอกาสต่อยอดธุรกิจ ได้มีโอกาสเข้ามาสร้างการเติบโตและก้าวไปสู่เส้นทางตลาดทุน ภายใต้เงื่อนไขที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

ทั้งนี้การกระจายหุ้นใน LiVEx จะแตกต่างจาก SET และ mai เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯออกแบบให้ LiVEx เป็นการระดมทุนก้อนแรกเพื่อไปขยายธุรกิจให้เติบโตและเตรียมความพร้อมเพื่อไประดมทุนใน SET และ mai ต่อไป เพราะฉะนั้นจะไม่มีการกำหนดสัดส่วนว่าต้องกระจายหุ้น 25% เหมือนใน SET และ mai

สำหรับในแง่ของการเติบโตหากดูจาก mai ในอดีตเราใช้เวลากว่า 2 ปีในการที่จะมีบริษัทแรกเข้ามาจดทะเบียนระดมทุน โดยในช่วง 10 ปีแรก มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนใน mai ทั้งหมด 58 บริษัท แต่สำหรับ LiVEx เราคาดว่าจะเติบโตได้เร็วกว่า mai อาจจะเร็วขึ้นเท่าตัวหรือสามเท่าตัว

Advertisment

ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของ LiVEx ที่เรากำลังพัฒนาเพื่อให้เป็นทางเลือกการระดมทุนทางเลือกในอนาคต นอกจากนี้ LiVEx เป็นอีกทางเลือกในการเพิ่มโอกาสลงทุนสำหรับผู้ลงทุนในตลาดทุนไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ยืนยันว่า ตลท.มีความพร้อมอย่างมากในการรองรับการซื้อขายในกระดาน LiVEx เนื่องจากคาดว่าจะมีนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ราว 10 โบรกเกอร์ที่พร้อมเข้ามาซื้อขายในตลาด ในการเปิดให้ลงทุนวันแรก แม้ปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอ แต่หากในอนาคตกระดาน LiVEx ไปได้ดีก็มีแผนที่จะจัดตั้งกองทุน ซึ่งจะเป็นกองทุนที่มีความรู้ความเข้าใจ เพื่อเป็นช่องทางให้นักผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้ามาลงทุนในหุ้น SMEs และ Startups ได้ แต่จะเป็นการซื้อผ่านกองทุนโดยมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยบริหารจัดการให้

สำหรับสาระสำคัญของเกณฑ์การจดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ใน LiVEx มีดังนี้

1.เกณฑ์ที่เกี่ยวกับการเข้าจดทะเบียนและการเป็นบริษัทจดทะเบียน เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นในวงกว้างจาก ก.ล.ต. และเป็น SMEs ขนาดกลางขึ้นไป ตามนิยาม สสว. หรือ เป็น Startups ที่มี VC (Venture Capital) หรือ PE (Private Equity) ร่วมลงทุน

นอกจากนี้ ผู้บริหารบริษัทต้องผ่านหลักสูตรอบรมการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุนด้วย ซึ่งภายหลังเข้าจดทะเบียนแล้ว บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลตามรอบระยะเวลา และตามเหตุการณ์

2.เกณฑ์ที่เกี่ยวกับการซื้อขาย กำหนดให้ซื้อขายผ่านสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ เฉพาะผู้ลงทุนที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ในรูปแบบ Prepaid โดยต้องมีหุ้น หรือเงินเพียงพอสำหรับการซื้อขาย

โดยเปิดให้ซื้อขายแบบ Auction ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ (Automatic Order Matching : AOM) วันละ 1 รอบ ระหว่าง 09.30–11.00 น. พร้อมชำระราคาและส่งมอบแบบ Gross Settlement ภายในวันเดียวกันกับวันที่ซื้อขาย (วันที่ T) และไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor และ Circuit Breaker

“เกณฑ์ดังกล่าวได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว โดยจะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยปัจจุบัน ตลท.อยู่ระหว่างหารือกับบริษัท SMEs และ Startups อยู่ 3 รายที่มีความพร้อมที่จะเข้ามาระดมทุนและนำหุ้นเข้าซื้อขายใน LiVEx ในปีนี้

ซึ่งประกอบธุรกิจด้านเฮลท์แคร์เทคโนโลยี ธุรกิจอาหาร และไอทีเทคโนโลยี เป็นต้น คาดว่าจะใช้เม็ดเงินระดมทุนหลัก 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีบริษัทยื่นไฟลิ่งในไตรมาส 2 ปีนี้ และจะเริ่มซื้อขายใน LiVEx ประมาณไตรมาส 3 เป็นต้นไป” นายประพันธ์กล่าว