เงินเยนอ่อนค่าเกือบ 6% หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย

เงินเยน
REUTERS/Thomas White/Illustration/File Photo

นักวิเคราะห์จากกสิกรไทยเผย ค่าเงินเยนมีแนวโน้มอ่อนค่า 5.56% ปี 2565 ผลมาจากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ย

วันที่ 20 เมษายน 2565 นางสาวกฤติกา บุญสร้าง นักวิเคราะห์งานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การที่เงินเยนอ่อนค่าค่อนข้างมากช่วงนี้มาจากกระแสการเทขายพันธบัตร (บอนด์) ที่ค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องเข้ามาซื้อบอนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงกดดันให้เงินเยนอ่อนค่า

รวมถึงการที่เงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่า

ทั้งนี้ ค่าเงินเยนมีแนวโน้มอยู่ในฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ค่าเงินเยนอ่อนค่าราว 5.56% แล้ว (ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2565) อ่อนค่าที่สุดในกลุ่มค่าเงินสกุลเอเชีย

ก่อนหน้านี้ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า เงินเยนอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี โดยอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากญี่ปุ่นยังต้องพยุงเศรษฐกิจของตนเองไว้ พยายามกดดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล

โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เพิ่มขนาดของ Balance Sheet หรืองบดุลของตนเองอย่างรวดเร็วในช่วงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สวนทางกับหลาย ๆ ธนาคารกลางที่กำลังจะดูดสภาพคล่องกลับ

“ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนจึงกังวลใจและเทขายเงินเยนมาตั้งแต่ต้น มี.ค.ที่ผ่านมา และส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์” ดร.กอบศักดิ์ระบุ

ดร.กอบศักดิ์ยังระบุด้วยว่า คนที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น ตอนนี้ถือว่าเป็นอัตราที่ดีมากที่แลกจากบาทดีสุดในรอบ 15 ปี