หนี้เสีย เงินกู้ฉุกเฉินฝ่าโควิดพุ่ง “ออมสิน-ธ.ก.ส.” ยันรัฐอุ้ม 30-50%

สินเชื่อโควิด1

หนี้เสีย “เงินกู้ฉุกเฉิน” พุ่ง ! 2 แบงก์รัฐชี้เป็นโครงการตามนโยบายช่วยบรรเทาผลกระทบโควิด “ออมสิน” ยันไม่น่าห่วงรัฐ ช่วยชดเชยกรณีเป็นเอ็นพีแอล 30-50% เร่งตั้งสำรองปีนี้ 4 หมื่นล้านบาท ฟาก “ธ.ก.ส.” สัดส่วนหนี้เสียกระฉูด 50% เดินหน้าตรวจความสามารถการชำระของลูกค้า

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารออมสิน ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.7% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 เล็กน้อย ที่อยู่ระดับ 2.5%

อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากส่วนที่เป็น NPL นั้นบางส่วนเป็นสินเชื่อจากมาตรการของรัฐ เช่น สินเชื่อฉุกเฉินที่ให้ลูกค้ากู้รายละ 10,000 บาท วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ที่ต้องการเติมสภาพคล่องช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งแม้ NPL จะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ทางธนาคารยังบริหารจัดการได้

วิทัย รัตนากร

“ความตั้งใจของรัฐบาลต้องการส่งเงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับผู้ที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อผ่านสินเชื่อตามนโยบายรัฐ รัฐจึงชดเชยความเสียหายกรณีเป็นหนี้เสียให้แต่ละโครงการประมาณ 30-50% ฉะนั้น แม้ตัวเลขหนี้เสียในกลุ่มดังกล่าวจะถูกคำนวณจำนวนหนี้เสียของแบงก์ 2.7% แต่เราก็ไม่ต้องเอาสำรองส่วนเกินของแบงก์มาใส่ เพราะรัฐชดเชยความเสียหายให้เราอยู่แล้ว” นายวิทัยกล่าว

ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวอีกว่า ในปีนี้อาจจะเห็นตัวเลข NPL ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามสภาพที่เป็นจริง ซึ่งธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้เสียส่วนเกินรองรับไว้แล้ว 30,000 ล้านบาท และสิ้นปี 2565 จะตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอีกเป็น 40,000 ล้านบาท

ขณะที่แหล่งข่าวจากธนาคารออมสินกล่าวว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมาธนาคารออมสินดำเนินโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐ ทั้งโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับผู้มีอาชีพอิสระ และผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด วงเงินรวม 25,000 ล้านบาท ยอดอนุมัติกว่า 2 ล้านราย เป็นเงิน 22,182 ล้านบาท, โครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานราก วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ยอดอนุมัติกว่า 3.6 แสนราย เป็นเงินกว่า 1,847 ล้านบาท

และโครงการสินเชื่อสู้ภัยโควิด วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ยอดอนุมัติ 8.57 แสนราย เป็นเงิน 8,575 ล้านบาท

ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณลูกหนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้สินเชื่อฉุกเฉินมีแนวโน้มผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นโครงการสินเชื่อตามนโยบายของรัฐเพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด โดยที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ออกสินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อกว่า 9 แสนราย เป็นเงินรวมกว่า 9,000 ล้านบาท ส่วนนี้มีเป็นเอ็นพีแอลแล้วกว่า 50%

และสินเชื่อสู้ภัยโควิด วงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งมีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 4.11 แสนราย อนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 31,000 ราย ส่วนนี้เป็นเอ็นพีแอลแล้ว 3.77% ทั้งนี้ กรณีเป็นหนี้เสีย ธ.ก.ส.จะได้รับการชดเชยความเสียหายจากรัฐบาล 30%

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ธ.ก.ส.ได้เดินหน้าแก้ไขหนี้เกษตรกรโดยการออกไปพบลูกค้าและสำรวจ ประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ของลูกค้า ออกเป็นกลุ่มเขียว เหลือง และแดง โดยหากจัดกลุ่มเรียบร้อยแล้วจะเดินหน้าตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ จากการจัดกลุ่มลูกค้าตามความสามารถในการชำระหนี้ทั้งหมด 12.47 ล้านสัญญา วงเงินรวม 1.58 ล้านล้านบาท พบว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง (สีแดง) กว่า 5.83 ล้านสัญญา มูลค่า 5.84 แสนล้านบาท, กลุ่มความเสี่ยงค่อนข้างสูง (สีส้ม) 39,889 สัญญา มูลค่า 8,463 ล้านบาท, กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง (สีเหลือง) 5.3 ล้านสัญญา มูลค่า 7.14 แสนล้านบาท, กลุ่มความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ (สีเขียวอ่อน) 7.61 แสนสัญญา มูลค่า 1.52 แสนล้านบาท และกลุ่มความเสี่ยงต่ำ (สีเขียวเข้ม) 4.74 แสนสัญญา มูลค่า 1.25 แสนล้านบาท

“ในปีนี้จะเดินหน้าดูแลกลุ่มลูกค้าที่เป็นสีแดง 3 แสนรายก่อนที่จะต้องเข้าไปฟื้นฟู และเข้าไปปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้ตามนโยบายของ ธปท. ซึ่งจะเป็นการพักชำระหนี้เงินต้นให้ 50% และอีก 50% จะเป็นการเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้จนกว่าลูกค้าจะสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขสัญญา” แหล่งข่าวกล่าว