ระดมทีมเศรษฐกิจ แก้ปัญหาน้ำมันแพง ชง ครม. มาตรการเยียวยารอบใหม่

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

รองนายกฯ ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 1.30 ชั่วโมง เร่งสรุปมาตรการแก้ปัญหาพลังงานแพง พร้อมให้สั่งการบ้านไปดูรายละเอียด ก่อนชง ครม. 21 มิ.ย. 65

วันที่ 14 มิถุนายน 2565 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนรอบใหม่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานปรับสูงขึ้นว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปถึงมาตรการที่จะออกมาช่วยเหลือเพิ่มเติมแล้ว โดยให้แต่ละหน่วยงานไปสรุปรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ พิจารณาอนุมัติในวันอังคารที่ 21 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ทันการประกาศใช้ในเดือน ก.ค.นี้

ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในการดำเนินมาตรการนั้น ได้ให้กระทรวงการคลังไปสรุปรายละเอียดอีกครั้ง แต่ขอยืนยันว่ามีแหล่งเงินที่จะนำมาใช้แน่นอน

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังยังต้องกลับไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)​ หรือสภาพัฒน์ กล่าวว่า เป็นเพียงหน่วยงานรวบรวมข้อมูลมาตรการ ยังระบุรายละเอียดไม่ได้

สำหรับการประชุมดังกล่าว ทีมงานเศรษฐกิจได้เดินทางมาหารือร่วมกันที่กระทรวงการคลัง ในเวลา 17.30 น. โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 1.30 ชั่วโมง ซึ่งมีหน่วยงานเข้าร่วมการประชุม ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง, นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ​หรือสภาพัฒน์, นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์การ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)​, นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง, ปลัดกระทรวงการพลังงาน, ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.),​ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ มาตรการที่จะสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ ได้แก่

1.เพิ่มเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน จำนวน 3.6 ล้านคน

2.ให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

3.ช่วยค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน ในกลุ่มมอเตอร์ไซต์รับจ้าง

4.ตรึงราคาขายก๊าซเอ็นจีวี 15.59 บาทต่อกิโลกรัม

5.แท็กซี่มิเตอร์ โครงการลมหายใจเดียวกัน ซื้อก๊าซแอลพีจี 13.62 บาทต่อกิโลกรัม

6.ลดค่าไฟ (เอฟที)​ 22 สตางต์ (สต.)​ ต่อหน่วย ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 65

7.ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท และช่วยออกครึ่งหนึ่งของที่เกิน 30 บาท

8.ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดูแลราคาก๊าซหุงต้มไม่ให้ปรับขึ้นสูงเกินไป

9.ลดเงินสมทบนายจ้างลูกจ้าง ม.33 จาก 5% เหลือ 1%

10.ลดเงินสมทบ ม.39 จาก 9% เหลือ 1.9% และ ม.40 เหลือ 42-180 บาทต่อเดือน