สปสช.ยกเลิกสัญญารักษาบัตรทองกับ 9 โรงพยาบาลเอกชน 1 ต.ค. นี้ เตรียมมาตรการดูแลผู้มีสิทธิต่อ
วันที่ 19 กันยายน 2565 ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการของโรงพยาบาลเอกชน (รพ.เอกชน) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 9 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมเหสักข์, โรงพยาบาลบางนา 1, โรงพยาบาลประชาพัฒน์, โรงพยาบาลนวมินทร์, โรงพยาบาลเพชรเวช, โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2, โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา, โรงพยาบาลบางมด, โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
เนื่องจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข พบหลักฐานว่า หน่วยบริการเอกชนทั้ง 9 แห่ง มีการเบิกค่าคัดกรองเมตาบอลิกไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปนั้น
พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า 9 โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว ดูแลประชากรผู้มีสิทธิบัตรทองจำนวน 696,103 คน ในจำนวนนี้มีเพียง 62,331 คน หรือประมาณร้อยละ 9 ที่ใช้สิทธิรับบริการ โดยเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวน 24,058 คน
โดย สปสช.ได้เตรียมความพร้อมรองรับการดูแลประชากรสิทธิบัตรทอง ดังนี้
- จัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิรองรับประชากร ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกเวชกรรม คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และร้านยา ฯลฯ
- จัดหาระบบบริการปฐมภูมิรูปแบบใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน
- จัดหาโรงพยาบาลรับส่งต่อ
- ประสานและจัดหน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีนัดรักษาหรือติดตามอาการ
ผู้ป่วยใน รักษาจนกว่าจะหาย-มีนัดต่อเนื่อง ประสานโรงพยาบาลใหม่
สำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทที่ลงทะเบียนใช้สิทธิกับ รพ.เอกชนทั้ง 9 แห่งนี้ สปสช. เตรียมแผนการรองรับการรักษาที่โรงพยาบาลไว้ ดังนี้
- กรณีผู้ป่วยใน ที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลดังกล่าว ยังสามารถรักษาต่อไปได้ จนกว่าจะปลอดภัย
- กรณีผู้ป่วยนัดรักษาต่อเนื่อง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่มีนัดติดตามอาการ ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และกรณีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด ฯลฯ สปสช.ได้ประสานและจัดหาหน่วยบริการเพื่อให้การรักษาต่อเนื่องแล้ว
กรณีผู้ป่วยนัดรักษาต่อเนื่อง สปสช. ขอให้ติดต่อขอรับเวชระเบียน (ข้อมูลและประวัติการรักษา) กับโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ในขณะนี้ โดย สปสช.ได้ทำหนังสือถึง รพ. ทั้ง 9 แห่ง เพื่อขอข้อมูลผู้ป่วยพร้อมประวัติการรักษาด้วยเช่นกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประสานส่งต่อผู้ป่วย
สำหรับผู้ป่วยไตที่มีนัดฟอกไตกับทั้ง 9 รพ.เอกชนนี้ ยังคงรับบริการได้ตามนัดเหมือนเดิม เนื่องจากการยกเลิกสัญญาไม่ได้รวมถึงการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
ไม่ใช่ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่อง รีบเช็กสิทธิ
พญ.ลลิตยาแนะนำเพิ่มเติมว่า กรณีผู้ที่ไม่ใช่ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่องนั้น ระหว่างนี้ขอให้ท่านตรวจสอบสิทธิการรักษา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
ผู้ที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) และสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) เป็น 1 ใน 9 รพ.เอกชน
ให้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการแห่งใหม่ที่อยู่ในเขตพื้นที่ หากไม่มีหน่วยบริการในเขตพื้นที่ สปสช. กำลังเร่งจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติมแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป หากเกิดภาวะเจ็บป่วยท่านก็ยังใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ โดยเข้ารับบริการที่ทุกหน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งในระบบบัตรทอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ผู้ที่สถานพยาบาลเข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) เป็นคลินิกเอกชนหรือศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ไม่ใช่ รพ. 9 แห่งนี้ และมีสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) เป็น 1 ใน 9 รพ.เอกชน
เมื่อเจ็บป่วย ยังคงเข้ารับการรักษาได้ตามรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้นตามสิทธิได้เช่นเดิม กรณีที่จะต้องถูกส่งต่อไปรักษายังสถานพยาบาลอื่น สปสช. ได้ประสานงานให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่ได้จัดหาเพิ่มให้
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
- เจ็บป่วยฉุกเฉินกลุ่มสีเขียว (ไม่รุนแรง) สีเหลือง (เร่งด่วน) เข้ารักษาได้ทุกหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- เจ็บป่วยฉุกเฉินกลุ่มสีแดง (วิกฤตถึงแก่ชีวิต) เข้ารักษาได้ทุกหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบาย UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่
สำหรับการดูรายชื่อหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital หรือผ่านระบบ Nostra Map ที่เว็บไซต์ https://map.nostramap.com/NostraMap/ หรือแอปพลิเคชั่น Nostra Map เลือกชั้นข้อมูลที่เขียนว่า รายชื่อสถานพยาบาลในระบบ สปสช. (เลือกประเภทการขึ้นทะเบียนที่ระบุว่า บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป หรือหน่วยบริการประจำ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 กด 6 หรือช่องทางออนไลน์ ทั้ง ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือ https://lin.ee/zzn3pU6 Facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และไลน์ ทราฟฟี่ ฟองดูว์ พิมพ์ไลน์ไอดี @traffyfondue หรือ https://lin.ee/nwxfnHw