อนุทิน สั่ง รพ.9แห่งที่ถูกยกเลิกสัญญาบัตรทอง ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง

เช็กสิทธิบัตรทอง 2565

อนุทิน-รมว.สาธารณสุข ย้ำดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่งที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาให้ได้รับการรักษาต่อเนื่อง เริ่ม 10 ต.ค. เปิดให้เลือกหน่วยบริการใหม่ผ่าน 4 ช่องทาง

วันที่ 9 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีการยกเลิกสัญญาการให้บริการปฐมภูมิ ประจำ และรับส่งต่อทั่วไปกับโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ

ประกอบด้วย ได้แก่ รพ.มเหสักข์ รพ.บางนา 1 รพ.ประชาพัฒน์ รพ.นวมินทร์ รพ.เพชรเวช รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 รพ.แพทย์ปัญญา รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขไม่ถูกต้อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นต้นมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้ติดตามการดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า สปสช.ได้หารือกับโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง และกรุงเทพมหานคร และมีมาตรการรองรับเพื่อให้ประชาชนยังได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ระหว่างการรักษา รวมถึงมีช่องทางเลือกหน่วยบริการใหม่โดยสะดวก

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 65 เป็นต้นไป สปสช.จะเปิดให้ประชาชนที่หน่วยบริการปฐมภูมิและประจำถูกยกเลิกซึ่งมีอยู่ประมาณ 2.3 แสนคน จากโรงพยาบาล 7 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ประชาพัฒน์ รพ.นวมินทร์ รพ.เพชรเวช รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2 รพ.แพทย์ปัญญา รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท สามารถเลือกหน่วยบริการใหม่ได้ผ่าน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย

1.แอปพลิเคชั่น สปสช. เลือกเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ 2.ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso เลือกเมนู เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง 3.สายด่วน สปสช. โทร. 1330 และ 4.ลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเองได้ที่ที่ทำการของ สปสช. ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สปสช.ได้แจ้งว่าประชาชนที่ต้องเลือกหน่วยบริการปฐมภูมิและประจำใหม่ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ให้พิจารณาหน่วยบริการที่ใกล้บ้าน หรือสะดวกก่อนตัดสินใจเลือก สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ สปสช. http://mscup.nhso.go.th/mastercup/ หรือสอบถามสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกหน่วยบริการใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีสถานะ สิทธิว่างนี้ สปสช.ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมหน่วยบริการไว้รองรับแล้ว

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า โดยหากเจ็บป่วยสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายของ สปสช.ที่ไหนก็ได้ ทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือสถานพยาบาลอื่น ๆ ในระบบ เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาล ร้านยา ฯลฯ โดยตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลในเครือข่ายได้ที่ที่ https://map.nostramap.com/NostraMap/ (ดูที่ ชั้นข้อมูล ที่ระบุว่า สถานพยาบาลในระบบ สปสช.) หรือแอปพลิเคชั่น NOSTRA Map

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ส่วนผู้ที่มีโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง เป็นหน่วยบริการรับส่งต่อ ในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. 65 รวม 3 เดือนนี้ สปสช.ได้หารือกับกรุงเทพมหานครและกรมการแพทย์ เพื่อจัดหาโรงพยาบาลรับส่งต่อให้เป็นการชั่วคราวแล้ว เมื่อดำเนินการจัดสรรโรงพยาบาลรับส่งต่อแห่งใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการแจ้งให้ผู้มีสิทธิทราบต่อไป

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า กลุ่มผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา สปสช.ได้ขอความร่วมมือโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 9 แห่ง ให้การรักษาผู้ป่วยต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2565 เช่น กลุ่มผู้ป่วยในที่เข้าแอดมิต (Admitted) กลุ่มที่ต้องรักษาเร่งด่วน หรือมีนัดการรักษา เช่น ผู้ป่วยมีนัดผ่าตัด หญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด ผู้ป่วยมะเร็งที่มีนัดรังสีรักษา เคมีบำบัด ผู้ป่วยนัดตรวจอัลตราซาวนด์ ตรวจซีที สแกน (CT Scan) ตรวจเอ็มอาร์ไอ (MRI)

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ไปรับการรักษาในโรงพยาบาลอื่นที่มีศักยภาพสูงกว่า ยังคงไปรับการรักษาได้ตามปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

“ประชาชนที่มีสิทธิบัตรทองและมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการ สามารถ โทร.สอบถามสายด่วน สปสช. 1330 จะมีเจ้าหน้าที่ตอบคำถามพร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง” น.ส.ไตรศุลีกล่าว