ผบ.ตร. สั่งตั้งศูนย์ปราบพนันฟุตบอลโลก เอาผิดทั้งผู้จัด-ผู้เล่น-ผู้โฆษณา

ผบ.ตร. พนันฟุตบอลโลก

ผบ.ตร. เอาจริง สั่งตั้งศูนย์ปราบปรามการพนันฟุตบอลโลก เอาผิดทั้งผู้จัด-ผู้เล่น-ผู้โฆษณาชักชวน พร้อมจัดกำลังตรวจตรา ร้านเหล้า-ร้านอาหาร-ร้านเกม อย่างเข้มงวด

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอล ช่วงมหกรรมฟุตบอลโลกที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565-18 ธันวาคม 2565 ณ ประเทศกาตาร์ ว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยการพนันในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการสืบสวนจับกุม ปราบปรามอย่างจริงจังเป็นรูปธรรมทุกมิติ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน ที่อาจจะถูกมอมเมาได้ง่าย และการพนันยังเป็นสาเหตุหนึ่งในการไปก่ออาชญากรรมประเภทอื่น

ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่ดูแลงานป้องกันปราบปราม เป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมกับสั่งให้ทุกหน่วยตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอล มีระดับ ผบช. หรือ รอง ผบช. เป็นหัวหน้าศูนย์ เพื่อควบคุมสั่งการให้เกิดผลปฏิบัติเป็นรูปธรรม โดยมีมาตรการสำคัญ ดังนี้

หน่วยต้องเพิ่มความเข้มการตรวจตราตามสถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรม ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สถานประกอบการร้านอินเทอร์เน็ต ร้านเกม หรือสถานที่อื่นใดที่เปิดให้ชมการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อป้องกันและสืบสวนจับกุมการทายผลในช่วงการถ่ายทอดสด

ให้บูรณาการกับทุกภาคส่วนในการเปิดช่องทางการรับแจ้งเบาะแสการพนันฟุตบอล เช่น ทางโทรศัพท์สายตรงกับ หน.หน่วย หรือการติดต่อสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้าถึงง่าย

ให้ศูนย์ PCT และ บช.สอท. ตรวจสอบและเฝ้าระวังการพนันออนไลน์ รวมถึงการโฆษณาชวนเชื่อชักจูงการเล่นพนัน หากพบให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม และหากเข้าข่ายที่สามารถปิดเว็บไซต์ได้ ให้ดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด

เมื่อมีการจับกุม ให้สืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิด ผู้สนับสนุน นายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เจ้ามือทั้งที่รับทายผลโดยตรงและพนันออนไลน์ หากกรณีผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้นำมาตรการฟอกเงินมาบังคับใช้ทุกกรณี

ให้ทุกหน่วยประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางสื่อสารให้ประชาชนรับทราบถึงโทษของการพนัน โดยเฉพาะการบูรณาการร่วมกับสถานศึกษา โรงเรียน ให้ความรู้ รณรงค์ต่อต้านหามาตรการป้องกันการเล่นพนันทุกรูปแบบ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มเด็ก เยาวชน ที่จะเข้าถึงถูกมอมเมาง่าย

ผบ.ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า “ได้สั่งการย้ำไปยังหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่เล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล และพนันทายผลกันทางออนไลน์ รวมทั้งผู้จัดให้มีการเล่น ผู้ชักชวน โฆษณา นอกจากนี้ได้กำชับข้าราชการตำรวจทุกนายไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งการเป็นผู้เล่น มีส่วนได้ ส่วนเสีย หรือเรียกรับผลประโยชน์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยโดยเด็ดขาด และให้ผู้บังคับบัญชาดูแลสอดส่องผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด

ผบ.ตร.ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า “การพนันฟุตบอลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คนทำผิดจะต้องถูกจับกุม ดำเนินคดี เสียทั้งเงิน ทั้งอนาคต ไม่มีใครรวยเพราะการพนัน ผู้ปกครองขอให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ถูกมอมเมาจากการพนันฟุตบอลทุกรูปแบบ

ขอเชิญคนไทยหันมาเชียร์กีฬาอย่างสร้างสรรค์ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันฟุตบอล เพื่อช่วยกันหยุดวงจรการพนัน ทั้งนี้ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือศูนย์ PCT 08-1866-3000 หรือ 191, 1599 ตลอด 24 ชม.”