กรมการแพทย์ แนะวิธีป้องกันฮีตสโตรก-ลมแดด ภัยร้ายถึงขั้นเสียชีวิตได้
วันที่ 31 มีนาคม 2566 นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วงนี้ไทยมีอากาศร้อนจัด บางพื้นที่อุณหภูมิสูงสุดอาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ประชาชนอาจเป็นโรคลมแดด หรือฮีตสโตรก (Heat Stroke) ได้
โดยกลุ่มเสี่ยงสำหรับโรคลมแดด หรือฮีตสโตรกนั้น อาทิ
- ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งอย่างกรรมกรก่อสร้าง เกษตรกร ทหาร นักกีฬา
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ คนอ้วน
- ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับอาการของโรคมีหลากหลายตามลำดับขั้นของอุณหภูมิที่สูงขึ้น เช่น
- มีผื่นขึ้นตามตัว
- ตัวบวม
- อาการอ่อนเพลีย หรือที่เรียกว่าเพลียแดด
- เป็นตะคริว
- คลื่นไส้อาเจียน
- ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
- ปวดศีรษะ
- ความดันโลหิตต่ำ
- หัวใจเต้นเร็ว
- ชัก
- มึนงง
- หน้ามืด
ทั้งนี้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอาจทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้
ด้านการรักษาและป้องกัน โรคลมแดด หรือฮีตสโตรก นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี อธิบายว่า หากพบเห็นผู้เป็นลมแดดให้ปฏิบัติดังนี้
- รีบนำเข้าที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก
- ให้นอนราบยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง
- ถอดเสื้อผ้าให้เหลือน้อยชิ้น
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นน้ำแข็งประคบตามซอกคอ หน้าผาก รักแร้ ขาหนีบ
- ใช้พัดลมเป่าเพื่อระบายความร้อนและลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลงอย่างรวดเร็วที่สุด
- หากไม่หมดสติให้ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ
- นำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว
ในการป้องกัน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ระบุว่า ให้พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัด เลือกออกกำลังกายช่วงเช้าหรือเย็น
ดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนออกจากบ้าน และพยายามดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
การแต่งกายให้สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย สีอ่อน ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดรูป สวมแว่นกันแดด กางร่ม ทาโลชั่นกันแดด