กรมอุตุเตือน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น ในอีก 7 วัน

พายุฤดูร้อน
ภาพจาก PIXABAY

กรมอุตุเตือน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น ในอีก  7 วันข้างหน้า โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงไว้ด้วยไว้ด้วย

วันที่ 1 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ ระหว่างวันที่ 1 – 7 เมษายน พ.ศ. 2566 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 1-7 เม.ย. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง

โดยในช่วงวันที่ 2 – 5 เม.ย. 66 ลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. 66

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

สำหรับลมตะวันออก และลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ ตลอดช่วง

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อน ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. 66 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงไว้ด้วยไว้ด้วย

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 1 – 7 เมษายน พ.ศ. 2566

ภาคเหนือ

อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 – 42 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในวันที่ 7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 41 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 4 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 39 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 5 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 7 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20  ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

อากาศร้อนภึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2 – 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20  ของพื้นที่ ส่วนในวันที่ 7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30  ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 40 องศาเซลเซียส