บิ๊กป๊อก โยนรัฐบาลใหม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว-สางหนี้บีทีเอส

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา (แฟ้มภาพ)

บิ๊กป๊อก-อนุพงษ์ รอ กทม.เคาะจ่ายหนี้บีทีเอส โยนรัฐบาลใหม่ต่อสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เดินทางไปพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อทวงหนี้ค่าระบบ E&M ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด รัฐวิสาหกิจของ กทม.ไปแล้ว โดยจะมีการประชุมสภา กทม.เพื่อพิจารณาในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ว่า

ขณะนี้เป็นเรื่องที่ กทม.พยายามหาแนวทางดูแลเรื่องนี้อยู่ หลังสุดก็ทำเรื่องมาทาง ครม. แต่ช่วงที่มาเป็นช่วงที่ ครม.ไม่สามารถพิจารณาได้ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะฉะนั้นจึงต้องรอรัฐบาลใหม่มาพิจารณา เพราะปัญหาของบีทีเอสคือ เรื่องของจะทำวิธีใดก็ได้ แต่ติดปัญหาว่า แล้วหนี้สินที่มีอยู่ขณะนี้จะใช้งบประมาณจากที่ใด กทม.ก็ไม่มี เมื่อไม่มีก็เหลือหนทางที่จะทำได้ก็คือว่า ให้เอกชนทำ ก็ต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐกับเอกชน (PPP) ต้องรออีกตั้งหลายปีกว่าจะทำได้ เพราะจะเป็นสมบัติของ กทม.ทั้งหมดในปี 2573 ถึงจะเริ่มใช้ได้

เพราะฉะนั้นระหว่างนี้ไปหนี้สินที่มีจะหาเงินจากที่ใด ก็เหลือทางออกทางเดียวก็คือจากรัฐบาล ถ้ารัฐบาลจะให้ตรงนี้ (ต่อสัมปทานโครงการสายสีเขียวส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 30 ปี) ก็เป็นการพิจารณาของรัฐบาลใหม่

“ตอนนี้ภาระหนักอาจจะตกอยู่กับบริษัทเอกชนในแง่ของยังต้องเดินรถอยู่ บริการประชาชน ขณะเดียวกัน กทม.ก็ยังไม่มีความสามารถในเรื่องการจ่ายหนี้สิน แต่ท่านผู้ว่าฯ กทม.ก็คงคิดว่าก็ต้องหาทางแก้ไขอยู่แล้ว” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องหนี้สิน ครม.อาจจะต้องรับความเห็นจาก ครม. แต่ต้องรอ กทม.ตัดสินใจก่อน ยังไม่รู้ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าตัดสินใจแล้วก็แจ้งมาว่าจะเอาเงินหรือจะเอาอย่างไร