
เปิดไทม์ไลน์ ขสมก. รับรถเพิ่ม 3,390 คัน หวังรองรับจำนวนผู้โดยสารขยาย โชว์ 12 โครงการเด่นช่วง 8 เดือน สนองนโยบายเข้าเป้าหมาย พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณภาพการให้บริการ
วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ดร.มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เริ่มดำเนินการจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพการให้บริการรถโดยสาร โดยในระยะที่ 1 จะเช่ารถเพิ่มจำนวน 350 คัน โดยจะรับรถในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567
ขณะที่ระยะที่ 2 จะเช่ารถ EV เข้ามาจำนวน 1,520 คัน พร้อมรับรถเข้ามาช่วงเดือนเมษายน 2568 ดังนั้น จะมีจำนวนรถเข้ามาใหม่รวมจำนวน 1,870 คัน เพื่อนำมาวิ่งให้บริการแทนรถโดยสารเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล และมีอายุการใช้งานนานกว่า 30 ปี สำหรับระยะที่ 3 จะดำเนินการจัดหารถพลังงานสะอาดตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุน (PPP) จำนวน 1,520 คัน
ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเสนอบอร์ดขอรับทุน เพื่อว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำรายงานการศึกษา PPP เบื้องต้นคาดว่าจะจัดหาผู้ร่วมลงทุน PPP พร้อมทยอยรับรถได้ในช่วงปลายปี 2571 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ระยะที่ 1, 2 และ 3 มีจำนวนรถรวม 3,390 คัน โดยแผนการจัดหารถโดยสารเพิ่มขึ้นนั้น ต้องการให้ประชาชนมีรถโดยสารที่เพียงพอต่อการให้บริการ เนื่องด้วยประชาชนมีแนวโน้มที่จะใช้บริการเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารจะไม่ต้องรอรถเป็นเวลานานอีกต่อไป
ดร.มนพรกล่าวต่อว่า ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายการบริหารงาน โดยให้ตนรับผิดชอบในการกำกับดูแลตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2566 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันได้กำกับดูแล ขสมก. มาเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว (กันยายน 2566-พฤษภาคม 2567) ขณะนี้หน่วยงานได้มีพัฒนาทุกด้าน ทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการ และสำเร็จเป็นรูปธรรม ตรงตามนโยบายที่ได้มอบหมายไว้
โดย ขสมก.รายงานโครงการเด่นจำนวน 12 โครงการ ได้แก่
- การจัดหารถโดยสารให้ครบจำนวน 3,390 คัน
- การผลักดันแผนขับเคลื่อนกิจการองค์การขนส่งมวลชนฯ
- โครงการพัฒนาป้อมนายท่าปล่อยรถ เพื่อทดแทนป้อมเดิมที่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม และติดตั้งจอ LED ที่เชื่อมต่อกับระบบ GPS ของรถโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ
- โครงการสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล (เบิกตรง) ทำให้พนักงานไม่ต้องสำรองเงินสด เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล
- โครงการเช่ารถไฟฟ้าเพื่อใช้งานในสำนักงานจำนวน 51 คัน
- โครงการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA)
- โครงการติดตั้งระบบ GPS ติดตามตำแหน่งรถโดยสาร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้บริการ และผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป
- โครงการติดตั้งกล้อง CCTV ในรถโดยสาร
- โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ BMTA MIS บริหารจัดการเดินรถ ขสมก. (Web Application และ Mobile Application)
- โครงการประกันเวลาการเดินทางโดยรถโดยสาร ขสมก. (Just In Time)
- การยกเลิกสัญญาเหมาซ่อมรถโดยสารยี่ห้อ BLK พร้อมหาบริษัทเหมาซ่อมบำรุงรถโดยสารรายใหม่ที่มีประสิทธิภาพเข้ามาทดแทน
- โครงการจัดการข้อมูลบุคคลและสวัสดิการพนักงาน
โดยนอกเหนือจาก 12 โครงการดังกล่าวแล้ว กระทรวงคมนาคม และ ขสมก. ยังได้ร่วมมือกันในอีกหลายโครงการ เพื่อมุ่งหวังพัฒนาหน่วยงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งต้องการยกระดับคุณภาพการให้บริการรถโดยสารของ ขสมก. นำไปสู่การสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ และพนักงาน ขสมก. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ราชรถยิ้ม”
สำหรับแนวทางการสร้างการเติบโตของรายได้ของหน่วยงาน ขสมก. ดำเนินการภายใต้แนวคิด 4 เพิ่ม 4 ลด ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเดินรถและปรับปรุงเส้นทาง เพิ่มคุณภาพการให้บริการจากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มรายได้ค่าโดยสารจากการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บค่าโดยสาร เพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์จากทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน ลดค่าใช้จ่ายของการเดินรถ ลดค่าใช้จ่ายของสำนักงาน ลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง ลดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง เพื่อเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนของหน่วยงาน ขสมก.ต่อไป