สภาพอากาศ 7 วัน กรมอุตุฯเตือนหลัง 2 ก.พ. รับมือร้อนขึ้น-หมอกหนา

หมอกหนา
เครดิตภาพ : ORAPIN WACHANGNGOEN

กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศ 7 วันล่วงหน้า(27 ม.ค.-2 ก.พ. 68)  เตือนอากาศยังหนาวเย็นถึง 30 ม.ค.นี้ และมีลมแรง ชี้หลัง 1-2 ก.พ. สภาพอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น-ร้อนขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส  กับมีหมอกหนาบางพื้นที่ กทม.อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องสา ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเฉลี่ย 10-40% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ช่วงวันที่ 29 – 30 ม.ค. 68 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส

ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ADVERTISMENT

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย

ADVERTISMENT

ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 27 ม.ค. – 2 ก.พ.2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 28 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 22 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 27 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 27 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 31 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้าตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง

ตั้งแต่ จ.สุราษฎ์ธานีขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 ฝนเล็กน้อยบางแห่ง

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 ฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 27 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 2 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

คาดหมายอากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วง 27 มกราคม-2กุมภาพันธ์ 2568
คาดหมายอากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วง 27 มกราคม-2กุมภาพันธ์ 2568

(ออกประกาศ 27 มกราคม 2568 12:00 น.)

ทางด้าน เพจฟ้าฝน พยากรณ์อากาศประเทศไทย ระบุว่า ช่วงอากาศเย็นอยู่ในช่วงเฮือกสุดท้ายแล้ว หรือระหว่างวันที่ 27-30 มกราคม 2568 รวมถึงมีลมแรง และทำให้ฝุ่นลดลงด้วย แต่หลังจากวันที่ 30 มกราคม 2568 ไปแล้ว อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น โดยพื้นที่ “สีแดง” จะเริ่มกลับมาโชว์ฟอร์มบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากดูตามกราฟิกของเพจฟ้าฝนแล้ว อากาศเย็นจะมีไปจนถึงวันที่ 30-31 มกราคม 2568(ดูสีน้ำเงินเข้ม) หรือช่วง 1-3 กุมภาพันธ์ บางพื้นที่ของภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นอยู่ แต่หากพ้นช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ไปแล้ว อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นหรือร้อนขึ้นแล้ว (ดูกราฟิกประกอบ)

เครดิตภาพ : เพจฟ้าฝน