จ่อแก้ กม.บำนาญชราภาพ ขยายอายุรับเงิน55 ปีเ ป็น60 ปี เปิดวิธีคำนวณเงินเกษียณ

บำเหน็จชราภาพ

หลังจากประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การปรับเพิ่มเงินสมทบผู้ประกันตน จากเดิม 750 บาทต่อเดือนเป็นสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน โดยคิดคำนวณฐานค่าจ้างใหม่จากเดิมเงินเดือน 15,000 บาท เป็นสูงสุด 20,000 บาท เตรียมประกาศใช้อีก 3 เดือนข้างหน้า กระทั้งนายกรัฐมนตรีออกมาย้ำว่า ยังไม่ดำเนินการ เนื่องจากเครือข่ายแรงงานออกมาคัดค้านนั้น ล่าสุดเรื่องยังคงเดินหน้าต่อและยังมีการขยายอายุรับเงินบำนาญชราภาพอีก

เมื่อ วันที่ 29 ตุลาคม นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการประชาพิจารณ์ปฏิรูปกองทุนบำนาญชราภาพ ว่า เรื่องนี้ต้องแยกคนละส่วนกับกรณีการเพิ่มเงินสมทบผู้ประกันตนเงินเดือน 16,000-20,000 บาทขึ้นไป โดยกรณีนี้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นเมื่อปี 2559 แล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย ขั้นตอนคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จปี 2561 ขณะที่การขยายอายุรับเงินบำนาญชราภาพนั้น อยู่ระหว่างการประชาพิจารณ์ทั้งหมด 12 ครั้ง ผ่านการประชาพิจารณ์ไปแล้ว 6 ครั้ง  ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดพระนครศรีอยธุยา เชียงใหม่ พิษณุโลก กระบี่ และสงขลา โดยอีก 6 ครั้งที่เหลือจะทำใน  6 จังหวัด  คือ  ครั้งที่ 7  จังหวัดขอนแก่น วันที่ 30 – 31 ตุลาคม 2560  ครั้งที่ 8  จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน 2560  ครั้งที่ 9  จังหวัดระยอง วันที่ 13 -14 พฤศจิกายน 2560  ครั้งที่ 10 จังหวัดเพชรบุรี วันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2560  ครั้งที่ 11 จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560  และครั้งที่ 12 กรุงเทพมหานคร วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560

“โดยผล การประชาพิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการขยายอายุรับเงินบำนาญชราภาพ จากเดิมเกษียณอายุ 55 ปี เป็นอายุ 60 ปี แต่โดยระยะแรกก็จะเป็นไปโดยความสมัครใจ หากใครต้องการรับเงินบำนาญที่อายุ 55 ปีก็ทำได้เช่นเดิม เพียงแต่ในกรณีผู้ประกันตนที่ต้องการรับเงินตอนอายุ 60 ปีก็สามารถทำได้ ซึ่งตรงนี้เมื่อได้ข้อสรุปจะปรับแก้ในพ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558  ซึ่งหากแก้ไขแล้วก็จะเป็นพ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับแก้ไขที่ 5) พ.ศ.2558 แทน แต่คงยังไม่รวดเร็วนัก เพราะต้องเป็นไปตามกระบวนการ” นพ.สุรเดช กล่าว

นพ.สุรเดช กล่าวว่า โดยการระดมความคิดเห็นนั้นจะมี 4 แนวทาง  คือ แนวทางที่ 1 คงอายุการรับเงินบำนาญชราภาพที่ 55 ปี และรับสิทธิประโยชน์การรับเงินบำนาญแบบเดิม  แนวทางที่ 2 ขยายอายุการเกิดสิทธิรับบำนาญตามหลักสากล และมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชดเชย หากไม่สามารถทำงานจนถึงอายุที่มีสิทธิรับบำนาญได้  แนวทางที่ 3 ขยายอายุการเกิดสิทธิรับบำนาญตามหลักสากลคือ 60 ปี และสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์บำเหน็จไปส่วนหนึ่งก่อนครบอายุรับบำนาญ แต่เมื่อครอบอายุเกิดสิทธิรับบำนาญ เงินที่ได้รับจะลดลง และแนวทางที่ 4  ขยายอายุรับบำนาญขั้นต่ำเฉพาะผู้ประกันตนใหม่ สำหรับผู้ประกันตนเดิมสามารถเลือกรับบำเหน็จส่วนหนึ่งก่อนครบอายุรับบำนาญ แต่เมื่ออายุครบรับบำนาญเงินจะลดลง  ซึ่งสามารถเข้าไปศึกษาและแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยกับแนวทางใดในเว็บไซต์ ของสำนักงานประกันสังคม http://www.sso.go.th

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบค้นในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคมเปิดเผยตัวเลขการคำนวณเงินรับ บำนาญชราภาพ โดยให้คำนวณดังนี้   เงินบำนาญ = [20% + (1.5%x จำนวนปีที่ส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน)] x ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย

ข้อมูลจาก สปส.

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบค้นในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคมเปิดเผยตัวเลขการคำนวณเงินรับ บำนาญชราภาพ โดยให้คำนวณดังนี้   เงินบำนาญ = [20% + (1.5%x จำนวนปีที่ส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน)] x ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย  หรือ หากส่งเงินสมทบมา 15 ปี อัตราเงินบำนาญอยู่ที่ 20% ก็จะได้รับเงินบำนาญต่อเดือนที่ 3,000 บาท แต่หากส่งเงินสมทบ 20 ปี จะได้อัตราเงินบำนาญ 27.5 % จำนวนเงินรับบำนาญ 4,125 บาทต่อเดือน หากส่งเงินสมทบ 25 ปี อัตราเงินบำนาญ 35 %  จำนวนเงินรับบำนาญอยู่ที่ 5,250 บาทต่อเดือน หากส่งเงินสมทบ 30 ปี อัตราเงินบำนาญ 42.5% รับเงินบำนาญจำนวน 6,375 บาทต่อเดือน และหากสมทบ 35 ปี อัตราบำนาญอยู่ที่ 50% จะรับเงิน 7,500 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบัน

 

ที่มา มติชนออนไลน์