เพจดราม่าฯ เตือน อัศวิน พิจารณาการใช้ยาโควิด หวั่นกระทบผู้ป่วยหนัก

ยาฟาวิพิราเวียร์
KAZUHIRO NOGI / AFP

เพจ Drama-addict โพสต์ข้อความถึง ผู้ว่าฯ กทม. ขอให้พิจารณาการให้ยา “ฟาวิพิราเวียร์” กับผู้ป่วยโควิดตั้งแต่ติดเชื้อ หวั่นกระทบผู้ป่วยอาการหนัก

วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วิทวัส ศิริประชัย หรือ จ่าพิชิต ขจัดพาลชน แอดมินเพจ Drama-addict โพสต์ข้อความถึง พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้พิจารณาการดำเนินการตามแนวปฏิบัติเดิมในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการให้ “ยาฟาวิพิราเวียร์” โดยได้อ้างอิงข้อมูลตามที่ระบุไว้ในแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับปรังปรุงวันที่ 17 เมษายน 2564

นพ.วิทวัส ระบุว่า ไม่ควรเปลี่ยนแปลงแนวทางเดิมที่ใช้รักษา เนื่องจากไม่มีหลักฐานชี้ชัดได้ว่าทำแบบนั้นแล้วจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า หากจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับผู้ป่วยทุกราย ทั้งกลุ่ม “สีเหลือง” และ “สีเขียว” อาจกลายเป็นการใช้ยาเกินความจำเป็น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและต้องการใช้ยามากกว่า

“อันนี้ซีเรียสมากท่านผู้ว่า ยาตัวนี้เราเสกไม่ได้ มันมีจำนวนจำกัด เราต้องบริหารมันให้เหมาะสมที่สุดเท่าที่ทรัพยากรเรามี”

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ทางผู้ว่าฯ กทม. ได้ปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด โดยจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์ แก่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในกลุ่ม “สีเขียว” รายใหม่ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม เพื่อป้องกันการลุกลามของโรค ซึ่งยาดังกล่าว ทาง กทม.ได้จัดซื้อมา จำนวน 50,000 เม็ด และได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี อีก 50,000 เม็ด รวม 100,000 เม็ด

สำหรับแนวทางเวชปฏิบัติฯ ฉบับปรับปรุงวันที่ 17 เมษายน 2564 ระบุการรักษาโควิด-19 แบ่งกลุ่มตามอาการเป็น 4 กรณี โดยกลุ่มที่จะได้รับการพิจารณาให้ยายาฟาวิพิราเวียร์ (ตามดุยพินิจของแพทย์) นั้น จะต้องเป็นผู้ป่วยที่มีอาการ แต่ยังไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญ ภาพถ่ายรังสีปอดปกติ จนไปถึง กลุ่มผู้ป่วยยืนยันที่มีปอดบวม หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจนของค่าที่วัดได้ครั้งแรกขณะออกแรง