กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตสะสม จำนวน 58 ราย ทารกเสียชีวิตสะสมจำนวน 24 ราย เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบติดเชื้อสะสมสูง 488 ราย
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์ และทารกแรกเกิด ระหว่างวันที่ 15-21 สิงหาคม 2564 พบว่า มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 2,491 ราย แบ่งเป็นคนไทยจำนวน 1,700 ราย ต่างชาติจำนวน 791 ราย มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตสะสม จำนวน 58 ราย ทารกเสียชีวิตสะสมจำนวน 24 ราย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โดยจังหวัดที่หญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อสูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 488 ราย จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 399 ราย และจังหวัดปทุมธานี 101 ราย ตามลำดับ ซึ่งในหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด 1.5 เท่า ทารกมีโอกาสเข้ารักษาไอซียู 4.9 เท่า และมีโอกาสที่ทารกจะติดเชื้อด้วยร้อยละ 3-5
นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อไปว่า เพื่อลดความรุนแรงของการติดและแพร่เชื้อโควิด- 19 และมีความรวดเร็วในการเข้ารับการรักษาตัว จึงควรยกระดับการคัดกรองเบื้องต้นสำหรับหญิงตั้งครรภ์ด้วย ATK เมื่อสงสัยว่าตนเองเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หลังตรวจแล้วหากพบผลตรวจเป็นบวก ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งแบบ RT-PCR และถ้าพบการติดเชื้อแต่จัดอยู่ในกลุ่มสีเขียว ให้ดูแลตัวเองที่บ้านได้ แต่ในระหว่างอยู่ที่บ้านถ้ามีอาการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เช่น เหนื่อย หอบ มีไข้สูง ต้องเข้าระบบการรักษาในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลอื่น ๆ ที่มีบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลต่อไป
“ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่คลินิกฝากครรภ์ในสถานบริการใกล้บ้าน ซึ่งล่าสุดมีหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนสะสมเข็มที่ 1 แล้ว จำนวน 30,441 และเข็มที่ 2 จำนวน 2,372 ราย อีกทั้งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องขณะนี้ หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงให้เน้นทำงานที่บ้าน (Work From Home) และเข้มงวดการปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ในกรณีที่บ้านมีสมาชิกอาศัยอยู่ร่วมกันหลายคน ควรสวมหน้ากากขณะอยู่ร่วมกัน หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ เว้นระยะห่างระหว่างกัน กินอาหารปรุงสุก เลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น ก็จะช่วยลดการติดและแพร่เชื้อได้ สำหรับผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์สามารถฉีดวัคซีนได้เช่นกัน และหลังฉีดไม่ต้องเว้นระยะการมีบุตร ไม่ต้องตรวจการตั้งครรภ์ก่อนฉีด เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานว่าการฉีด จะทำให้มีลูกยากแต่อย่างใด” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว