กทม.ยกเลิกจัดงานปีใหม่-งดกิจกรรมทั้ง 50 เขต สกัดโอไมครอน

คนไทยคิดอย่างไรกับโควิดช่วงปีใหม่ กรมอนามัย เปิด 5 สถานที่น่ากังวล
ภาพจาก pixabay

กทม.แถลงยกเลิกการจัดงานปีใหม่และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีลานคนเมือง และงดกิจกรรมหมดทั้ง 50 เขต พร้อมขอเอกชนงดเคานต์ดาวน์ สกัดแพร่เชื้อโอไมครอน

วันที่ 23 ธันวาคม 2564 นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงยกเลิกการจัดงานประเพณีวันขึ้นปีใหม่และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ประจำปี 2565 ซึ่งเดิมได้มีการเตรียมการจัดงานระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564-1 มกราคม 2565 บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า) โดยยึดปฏิบัติตามแนวทางของ การประชุม ศบค.

ล่าสุดในวันนี้ ซึ่งมีมติให้กรุงเทพมหานครงดการจัดกิจกรรมปีใหม่ทั้งหมด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 โอไมครอนที่แพร่ระบาดเร็วมาก โดยกรุงเทพมหานครงดจัดกิจกรรมปีใหม่ของทุกหน่วยงานทั้ง 50 เขต รวมถึงกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และพิธีทำบุญตักบาตรวันปีใหม่

“เนื่องจากทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้มีการเรียกร้องให้ยกเลิกวันหยุดบางส่วนเพื่อปกป้องสาธารณสุข เนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอน แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้าอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโลก และการแพร่ระบาดในประเทศไทย พบว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์โอไมครอน

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธันวาคม ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอนมีมากกว่า 100 ราย ยืนยันสายพันธุ์แล้ว 27 ราย และรอการยืนยันอีก 97 ราย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด ทาง กทม. ได้ทำการประชุมหารือกันแล้ว โดยทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขอยกเลิกการจัดงานประเพณีวันขึ้นปีใหม่ และการสวดมนต์ข้ามปี 2565 ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564-1 มกราคม 2565 ที่จะจัดขึ้น ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงของสำนักงานเขตและหน่วยงานเขตของ กทม.ทั้งหมด

แต่ส่วนภาคเอกชนที่ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ทาง กทม.ขอความร่วมมือให้ ‘งด’ แต่หากต้องการจะจัด ท่านจะต้องมีมาตรการที่เข้มขึ้น” นายเกรียงยศกล่าว

นายเกรียงยศกล่าวว่า ขอให้ทางเอกชนที่ต้องการจะจัดงานปีใหม่ ดำเนินการตามมาตรการโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง ที่รัฐบาลกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองคนเข้างาน เจลแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดสถานที่ ก็เว้นระยะห่างให้คนที่มาร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดทั้งงาน รวมถึงจะต้องมีจุดที่เตรียมไว้ให้กักตัวหากพบว่าผู้ที่มาร่วมงานติดเชื้อ และผู้ที่มาเข้าร่วมงานกับทางเอกชน ต้องมีผลการฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือต้องตรวจหาเชื้อแบบเอทีเคที่หน้างาน จึงขอความร่วมมือไปที่ทางเอกชนที่จะต้องจัดงาน ให้มีสิ่งเหล่านี้ เตรียมตัวไว้ด้วย รวมถึงลดจำนวนคนเข้างาน

“ทาง กทม.ขอความร่วมมือประชาชนงดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ ตลอดจนหลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เข้าใจว่าเทศกาลปีใหม่เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง แต่กิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก หรือจำนวนมาก ก็ขอความร่วมมือ ท่านจะเลี้ยงฉลองกันในครอบครัวเราคงไม่ห้าม แต่ถ้าเป็นการรวมตัวของคนหมู่มาก ทางเราขอความร่วมมือด้วยนะครับ อย่างไรก็ตามคงเป็นอีกปีที่เราต้องงด สำหรับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ทั้งนี้ก็ด้วยความเป็นห่วง”