ทำความรู้จัก “แรมโบ้ อีสาน” ผู้โลดแล่นอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน ล่าสุดรับตำแหน่งเฉพาะกิจทลายแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่ออนไลน์ แก้ปัญหาราคาแพง
วันที่ 6 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชื่อของ “แรมโบ้ อีสาน” ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในช่วง 1-2 สัปดาห์มานี้ จากการบุกตรวจค้นแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ อย่าง มังกรฟ้า เสือแดงลอตเตอรี่ และกองสลากพลัส ที่ถูกตั้งคำถามว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้สลากแพงหรือไม่
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“ประชาชาติธุรกิจ” พาทำความรู้จัก แรมโบ้ อีสาน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน 36 ปี และผ่านงานมาแล้วถึง 8 พรรค
แรมโบ้ อีสาน คือใคร
“เสกสกล อัตถาวงศ์” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แรมโบ้ อีสาน” เดิมชื่อนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังรับหน้าที่ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล
แรมโบ้ อีสาน เกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2507 ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษาระดับมัธยมต้นจากโรงเรียนครบุรี จบ มศ.5 โรงเรียนสุราษฎร์ธานี, ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอก สาขายุทธศาสตร์การพัฒนา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ปัจจุบันกำลังศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า รุ่นที่ 25
ร่วมงาน 8 พรรคการเมือง
แรมโบ้ อีสาน เริ่มคลุกคลีกับวงการการเมืองตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน โดยหลังจากว่างจากการทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ก็มารับหน้าที่เป็น ผู้ช่วยผู้ดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา พรรคกิจสังคม เป็นผู้ช่วยทำงานให้เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
ต่อมาจึงได้ย้ายติดตามนายมนตรี ด่านไพบูลย์ มาสังกัดพรรคความหวังใหม่ หลังจากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าอาสาสมัครรณรงค์เลือกตั้งของพรรคพลังธรรม ในปี พ.ศ. 2538 และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกที่จังหวัดนครราชสีมา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในปี พ.ศ. 2539 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
กระทั่งการเลือกตั้งในปี 2544 แรมโบ้ อีสาน ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในสังกัดพรรคไทยรักไทยและได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 74
พ.ศ. 2561 แรมโบ้ อีสาน ได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2565 เขาได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเข้าร่วมเป็นสมาชิก พรรครวมไทยสร้างชาติ
ที่มา หัวหอกปราบลอตเตอรี่แพง
จากข้อเรียกร้องของมวลชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขปัญหาราคาลอตเตอรี่แพง จึงมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล
ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง แรมโบ้ อีสาน เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก
บุก “มังกรฟ้า”
ผ่านไปร่วม 2 เดือน แรมโบ้ อีสาน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติการณ์ขายสลากเกินราคาอย่าง “มังกรฟ้า” เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นขายลอตเตอรี่ออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 2 จุด 2 จังหวัด
จากการตรวจค้นได้พบสลากกินแบ่งรัฐบาลมากกว่า 2 ล้านฉบับ ที่มีการนำมาเสนอขายในเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของมังกรฟ้า ในราคาเริ่มต้นฉบับละ 105 บาท ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบดังกล่าวกว่าร้อยล้านบาทต่องวด
บุก “กองสลากพลัส”
ต่อมา 28 มีนาคม 2565 แรมโบ้ อีสาน พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติการณ์ขายสลากเกินราคา ตรวจพบสลากกินแบ่งรัฐบาลหลายล้านฉบับ ซึ่งนำมาเสนอขายในเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นของกองสลากพลัส ในราคาเริ่มต้นฉบับละ 95 บาท ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบดังกล่าวกว่าร้อยล้านบาทต่องวด
“เสือแดงลอตเตอรี่” กว้านซื้อลอตเตอรี่
อีกหนึ่งแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่เกินราคาที่หนีไม่พ้น อย่าง เสือแดง ลอตเตอรี่ แรมโบ้ อีสาน พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 หลังสืบสวนจนทราบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้รับการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล
แล้วมีการกว้านซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้ได้รับโควตาผู้ค้ารายย่อยและบุคคลทั่วไป แล้วนำเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มเสือแดงลอตเตอรี่ เสนอขายหรือแทรกแซงกลไกราคาจนทำให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมูลค่าสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด